ในวันจันทร์ (11 ก.พ.) รอยเตอร์รายงานว่า บรรยากาศในประเทศไทยมีความตึงเครียดมากขึ้นหลังจากพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เสนอชื่อทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีสำหรับการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม

รายงาน ระบุว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งจะพิจารณาการเสนอชื่อดังกล่าวภายในวันศุกร์นี้ ในขณะที่มีผู้ยื่นคำร้องขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินกระบวนการยุบพรรค ทษช. ซึ่งกกต.จะต้องรับเรื่องไว้พิจารณาต่อไป

สถานการณ์ในช่วงเวลา 3 วันที่ผ่านมานับแต่การเสนอชื่อเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้เกิดปรากฏการณ์หลายอย่างที่ทำให้คนไทยรู้สึกเป็นกังวล เช่น กรณีมีการสั่งการให้ตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมพร้อมที่จังหวัดพิจิตร กรณีคำว่า รัฐประหาร กลายเป็นแฮชแท็กทางทวิตเตอร์ในวันจันทร์ และมีการเผยแพร่เอกสารทางออนไลน์อ้างว่า คณะรัฐประหารสั่งปลดผู้บัญชาการเหล่าทัพ

ทางด้าน สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ประเทศไทยมีความเสี่ยงทางการเมืองสูงขึ้นท่ามกลางความแตกแยกที่ปะทุ โดย กกต.กำลังจะตัดสินชะตากรรมของพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมกับมีเสียงเรียกร้องให้ยุบพรรคการเมืองที่เชื่อมโยงกับอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร พรรคนี้

บลูมเบิร์กระบุว่า เสียงเรียกร้องให้ยุบพรรคไทยรักษาชาติสะท้อนให้เห็นว่า นายทักษิณยังคงเป็นบุคคลที่มีคนรักและคนชัง แม้ว่าเขาชนะเลือกตั้งหลายครั้งด้วยคะแนนเสียงจากชาวชนบทหลายล้านคนเพราะโครงการสวัสดิการต่างๆ แต่บรรดาผู้นำกองทัพมองว่า เขาเป็นภัยคุกคามต่อการสืบทอดอำนาจของทหาร

วันเดียวกัน รายงานอีกชิ้นหนึ่งของบลูมเบิร์ก แนะนำนักลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียให้จับตาปัจจัยต่างๆ 5 ข้อที่อาจส่งผลต่อการลงทุน ซึ่งหนึ่งในปัจจัยเหล่านั้นคือ ความเสี่ยงทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย ซึ่งสืบเนื่องจากการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งอาจนำไปสู่การยุบพรรค