ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ สส.จังหวัดหนองบัวลำภู กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงนี้ ว่า ตนก็รับทราบข่าวเหมือนกับทุกคน ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบ
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าว มีชื่อจะหลุดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ไชยา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ภายในพรรคเลย เพราะเราก็ถือว่าทำงานเต็มที่แล้วในช่วงที่รับผิดชอบงานในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร ซึ่งการทำงานกว่าจะลงตัวก็ล่วงเลยมาจนถึงขณะนี้ โดยการทำงานภายในกระทรวงก็ถือว่าเป็นไปด้วยดีแม้จะต่างพรรคกัน พร้อมย้ำว่าภายในกระทรวงเกษตรไม่มีความขัดแย้งและระยะหลังก็ทำงานเป็นทีมเดียวกัน ฉะนั้นจึงคิดว่าหลังจากงบ 67 เริ่มดำเนินการนโยบายต่างๆก็จะมีผลงานออกมา ซึ่งในส่วนของตนก็มีการเตรียมงานประสานเรื่องเจรจาส่งออกเนื้อปศุสัตว์ไปจีนไว้แล้ว
ทั้งนี้ ไชยา ยืนยันว่า ส่วนตัวไม่มีความกดดันอะไร เพราะทำดีที่สุดแล้วภายใต้ข้อจำกัดเรื่องงานที่มีอยู่ ฉะนั้นหากนโยบายของนายกรัฐมนตรีหรือผู้ใหญ่ จะมีการปรับ ครม. ตนมีความเป็นห่วงอย่างเดียว คือเรื่องการปรับครั้งนี้จะต้องวางรากฐานการเมืองและตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาของประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานที่เป็นฐานเสียงใหญ่ของพรรคเพื่อไทย ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาเท่าที่ควร อาทิ ปัญหาเรื่องน้ำระบบชลประทาน ก็ควรมีการขับเคลื่อนให้เป็นผล ฉะนั้นจึงคิดว่าหากจะปรับ ครม. ก็ต้องปรับเพื่อวางฐานในพื้นที่ภาคอีสานเช่นกัน เพราะตนมองว่ากระทรวงเกษตรฯมีความเกี่ยวข้องและใกล้ชิดกับประชาชนภาคอีสานมาก ทั้งเรื่องวิถีชีวิต น้ำ ดิน พืชผลการเกษตรที่อยู่ในวิถีชีวิตประชาชนชาวอีสานทั้งนั้น
”ถ้าจะปรับเพื่อวางฐานทางการเมือง และตอบโจทย์แก้ไขปัญหาเชิงระบบ กระทรวงเกษตรต้องอยู่ในมือของเพื่อไทย ในฐานะที่เป็นแกนหลัก ผมมองถึงอนาคตทางการเมืองว่า พรรคเพื่อไทยจะต้องยึดฐานเสียงกลับคืนมาให้ได้ ฉะนั้นถ้าหากเราวางว่าจะเป็นรัฐบาลในอนาคต กระทรวงเกษตรที่เป็นกระทรวงใหญ่แล้วมันตอบโจทย์ประชาชนอย่างแท้จริง มันต้องอยู่ในมือของเพื่อไทย เหมือนอย่างกระทรวงคมนาคม”
ไชยา ย้ำว่า ตนในฐานะที่เป็นหนึ่งในนักการเมืองภาคอีสาน และ สส. ที่ได้สัมผัสกับประชาชนมาตลอดชีวิต จึงคิดว่าวันนี้ประชาชนภาคอีสานต้องการเรื่องน้ำ พร้อมย้ำว่าหากว่าจะมีการปรับ ครม. กระทรวงเกษตร ต้องอยู่ในพรรคเพื่อไทย ซึ่งจะเป็นใครก็ได้ พร้อมเผยว่าจากที่ผ่านมาตนดูแลกรมฝนหลวงฯ ก็ดำเนินการเต็มที่ แต่ในส่วนเรื่องปศุสัตว์ก็ยังไม่พอใจ เพราะยังแก้ไขเรื่องปัญหาราคาเนื้อปศุสัตว์ทั้งระบบยังไม่ได้เนื่องจากการขับเคลื่อนต้องอยู่กับทางต่างประเทศด้วย
”ผมไม่ขัดข้อง หากมีคนที่มีความสามารถมากกว่า ซึ่งผมพร้อมสำหรับนโยบายของพรรคอยู่แล้ว ผมไม่หวั่นไหว“
เมื่อถามย้ำถึงกรณีมีชื่อหลุดรัฐมนตรี ไชยา ระบุว่า ตนไม่หวั่นไหว เพราะทำงานโดยไม่มีความกดดัน ตนมีฐานเสียงคือประชาชนในพื้นที่และความเป็น สส. 9 สมัย ซึ่งการทำงานที่ผ่านมา 7 เดือนก็พอใจระดับหนึ่งแต่ยังไม่เต็มร้อย เพราะทำงานในช่วงที่งบยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้และเป็นพรรครัฐบาลที่ไม่ได้คุมกระทรวงเกษตรฯโดยตรง พร้อมยืนยันว่าการทำงานกระทรวงเกษตรวันนี้ไม่มีปัญหาและไม่เป็นอุปสรรคในการปรับ ครม.ด้วย