ไม่พบผลการค้นหา
ศิลปินอินดี้ ใบปอ รัตติยา พูดถึงข้อดีของการอยู่บ้านหนีโควิด-19 เตรียมเปลี่ยนแผนรับงานใหม่ เพื่อเพิ่มเวลาอยู่กับครอบครัวให้มากขึ้น

ใบปอ รัตติยา ศิลปินอินดี้ที่ได้ฉายา ‘ราชินีรถแห่’ เปิดเผยกับ ‘วอยซ์ออนไลน์’ ว่า ในช่วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จำเป็นต้องอยู่บ้านเพื่อเป็นการลดการแพร่เชื้อไวรัส ไม่สามารถทำกิจกรรมนอกบ้านได้เหมือนเดิม แม้มีความกังวลว่าสถานการณ์นี้จะส่งผลกระทบต่อการทำงานอาชีพนักร้องไปถึงเมื่อไหร่ แต่เธอก็มองเห็นข้อดีของการอยู่บ้าน ทำให้ค้นพบ ‘คุณค่าชีวิตที่ขาดหายไป’

ใบปอ เล่าวว่า หลังจากสูญเสียคุณพ่อผู้เป็นเสาหลักของครอบครัวไปตั้งแต่เธอมีอายุ 6 ขวบ เธอและคุณแม่มีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก คุณแม่ทำกับข้าว ทอดลูกชิ้น และไปเก็บสายบัวตามคลองมาขาย โดยเธอช่วยดูแลน้องสาว และเข็นรถเข็นนำของไปขายตามหมู่บ้าน

หลังเรียนจบปริญญาตรีด้านเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เธอไปสมัครทำงานบริษัทจิวเวลรี่เดียวกับคุณแม่ ก่อนเป็นครูสอนเด็กประถม ที่โรงเรียนสองภาษาแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ โดยสอน 5 วิชาหลัก ได้แก่ คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ภาษาไทย, สังคม และพระพุทธศาสนา วันหยุดไปเดินสายร้องเพลงหารายได้เพิ่ม ยิ่งทำให้หลงใหลการร้องเพลงที่เธอชื่นชอบมาตั้งแต่เด็ก จึงตัดสินใจลาออกมารับงานร้องเพลงเต็มตัว 

ใบปอ รัตติยา.jpg

ต่อมามีพี่ที่รู้จักกันในจังหวัดมหาสารคามทำรถแห่ ชักชวนมาเป็นนักร้องรถแห่ ใช้สื่อโซเชียลสะสมแฟนคลับ ด้วยการนำผลงานการแสดงสดไปเผยแพร่ในยูทูบ และอัปเดตความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊ก ที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษคือการนำเพลงของนักร้องผู้ชายมาคัฟเวอร์ในรูปแบบของเธอเอง จนมีกระแสตอบรับที่ดี ทำให้มีงานเดินสายแสดงคอนเสิร์ตจากภาคอีสานขยายฐานไปทั่วไทยและต่างประเทศ

ใบปอ ยอมรับว่า 2 ปีที่ผ่านมาเธอทำงานอย่างบ้าคลั่ง เพราะต้องการหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และปลูกบ้าน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของคนในครอบครัวให้ดีขึ้น ด้วยการรับงานคอนเสิร์ต 2-5 งานต่อวัน มีรายได้หลักแสนทุกวัน แต่ก็ต้องอาศัยกินนอนบนรถเป็นส่วนใหญ่ จนลืมไปว่ามีคนที่บ้านรออยู่

กระทั่งการมาของไวรัสโควิด-19 สร้างความปั่นป่วนไปทั่วโลกได้รับผลกระทบโดนยกเลิกงาน ทำให้มีเวลาอยู่บ้านกับคนที่รักมากขึ้น ได้สัมผัสความรักความอบอุ่นแบบมีเงินก็ซื้อไม่ได้ ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง พิจารณาเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง หลังจากอยู่บ้านมากว่า 1 เดือน ทำให้เธอคิดได้ว่า งานที่ทำอยู่นั้นก็มีความสำคัญ แต่หันมาอีกทีคุณแม่ และญาติผู้ใหญ่ก็แก่ลงไปทุกวัน ที่ผ่านมาทุ่มเทกับการทำงานมากเกินไปจนมีเวลาดูแลท่านน้อยมาก เพราะรู้สึกว่าถ้าประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานคุณแม่คงภูมิใจ จากนี้ต่อไปตั้งใจปรับการดำเนินชีวิตใหม่ให้เกิดความสมดุลด้วยการ ‘เดินทางสายกลาง’ ไม่โหมรับงานมากเกินไป เพื่อให้มีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น

“ในสถานการณ์นี้มันบอกเราว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน แต่ก่อนทำงานทุกวัน ตะลอนไปทุกที่ไม่มีเวลาพัก แต่ตอนนี้อยู่บ้านตลอดไม่ได้ไปไหนแต่มีความสุขมากนะได้อยู่กับครอบครัว สิ่งที่กำลังสัมผัสอยู่ตอนนี้ปอว่าเป็นคุณค่าชีวิตที่เราห่างหายไปนาน ตอนทำงานอย่าว่าแต่อยู่กับครอบครัวเลย เวลานอนยังแทบไม่มี ตอนนี้เป็นความสุขอีกแบบที่ได้สัมผัสในช่วงนี้ เจอโควิดได้มาอยู่กับครอบครัวเห็นคุณแม่เห็นคนในครอบครัวมีรอยยิ้มที่มีเราอยู่ด้วย ครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตาเราก็สุขไปด้วย” 

“มองแง่ดีตอนนี้เหมือนโควิดมาช่วยสะกิดให้รีเซ็ตชีวิตตัวเองใหม่ ตั้งใจว่าเมื่อจบโควิดก็ยังทำงานเหมือนเดิม แต่คงไม่โหมเหมือนที่ผ่านมา ผ่อนลงมาหน่อยเพื่อให้มีวันพักกลับบ้านบ้าง ไม่ทำแบบเมื่อก่อนแล้ว คือแบบไม่มีวันพักทำงานทั้งกลางวันกลางคืนไม่กลับบ้านเลย ประสบอุบัติเหตุเกือบได้รับอันตรายถึงชีวิตก็หลายครั้ง ทำให้พ่อแม่เป็นทุกข์ไปด้วย เป็นห่วงเราจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดได้ว่าควรอยู่สายกลาง ถ้าโควิดไปต้องปรับการทำงานใหม่ไม่บ้างานเหมือนเดิม”  

ทั้งนี้ นักร้องสาวบอกอีกว่า เธอมีความตั้งใจใช้บ้านที่กำลังปลูกสร้างบนที่ดินที่ซื้อไว้ใน อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณแม่ เป็นที่ตั้ง ‘ค่ายมหาบุญเรคคอร์ด’ ค่ายเพลงที่เธอก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างสรรค์งานที่มีอิสระทางความคิด และทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม โดยที่มาของชื่อมหาบุญนั้น ส่วนหนึ่งมาจากการมองว่า อาชีพนักร้องเป็นอาชีพที่ทำแล้วได้บุญ ช่วยเอ็นเตอร์เทนให้ผู้คนมีความสุข ได้ปลดปล่อยตัวเองจากสิ่งแวดล้อมที่ตึงเครียด 

ที่ผ่านมาก็มีค่ายเพลงมายื่นข้อเสนอชักชวนไปร่วมงานด้วย ทุกค่ายก็น่าจะมีความจริงใจ แต่ไม่ได้ตอบรับไปเพราะเป็นคนที่ค่อนข้างรักอิสระ ตอนนี้กำลังทำค่ายเพลงเองเพื่อสร้างสรรค์งานที่เรารักในแบบฉบับของเรา คือ ปอชอบการร้องเพลงตั้งแต่เด็ก เอาจริงๆ ตอนเด็กชอบเพราะร้องแล้วได้ตังค์ แต่โตมาชอบเพราะเวลาร้องรู้สึกเป็นตัวของตัวเอง เห็นรอยยิ้มคนดูยิ่งทำให้อยากร้อง”

“หนูว่านักร้องเป็นอาชีพที่ทำแล้วได้บุญอีกอาชีพ ให้ความสุขและคลายเครียดให้ผู้คน ส่วนการช่วยเหลือสังคมปอทำทุกครั้งที่มีโอกาส คราวน้ำท่วมภาคอีสานก็ระดมเงิน และใชเงินทิปจากหน้าเวที 20 งานลงพื้นที่แจกของแจกเงินช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ทำผ้าป่าเข้าวัด บริจาคเงินให้สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า บริจาคกองทุนช่วยสุนัขไร้บ้าน และก็โอนเงินช่วยเหลือเด็กๆ คนป่วยที่ขอความช่วยเหลือมาเป็นการส่วนตัว”

ใบปอ รัตติยา.jpg

นอกจากเปิดค่ายเพลงเป็นของตนเองแล้ว จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้รับผลกระทบจากการถูกยกเลิกงาน จากที่เคยมีรายได้หลักแสนต่อวันกลายเป็นศูนย์ ทำให้เธอตระหนักถึงการมีอาชีพสำรอง เมื่อประสบปัญหาในการประกอบอาชีพหลักจะได้มีทางออก โดยเธอตั้งใจเปิดร้าน ‘มหาบุญสังฆภัณฑ์’ จำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ที่บ้านหลังใหม่ที่กำลังก่อสร้าง ซึ่งผู้รับเหมาได้ดำเนินไปแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์