วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2567 ) นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่. …) พ.ศ. …... กล่าวในงานเสวนา หัวข้อ ‘ภาษีและการควบคุมด้านราคา’ ในการประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 13 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 4 โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชัน กรุงเทพมหานคร ว่า พรรคเพื่อไทย เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมสุราชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันในการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎหมายทั้ง 2 ฉบับพร้อมกัน คือ พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต เพื่อผ่อนคลายการเข้าถึงใบอนุญาตผลิตสุราของผู้ประกอบการรายย่อยที่อยากประกอบอาชีพอย่างถูกต้อง และพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์สินค้า ให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนมีโอกาสทางธุรกิจมากขึ้น ของคณะกรรมาธิการฯ มีความคืบหน้าไปมากแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถบรรจุวาระ กลับเข้าวาระการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในช่วงเดือนธันวาคมนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ การขับเคลื่อนเรื่องสุราชุมชน เป็นคนละส่วนกันกับการทำให้การบริโภคสุราเพิ่มขึ้น แต่ทำให้สุราที่มีการผลิตอยู่แล้วในปัจจุบัน ถูกกฎหมาย มีการกำกับดูแล มีมาตรฐานและคุณภาพมากขึ้น โดยเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่าย หรือ “4 wins” ได้แก่
1. ภาครัฐ จะมีรายได้จากการเก็บภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้น จากการผลิตสุราที่ถูกต้องตามกฎหมาย
2. ผู้ประกอบการ มีโอกาสทางธุรกิจเพิ่ม สร้างอาชีพ และส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตให้เกษตรกร
3. ผู้บริโภค มีตัวเลือกในการบริโภคสุราที่มีคุณภาพและมาตรฐานเพิ่มขึ้น
4. ประเทศสามารถใช้สุราชุมชนเป็นกลไกส่งเสริม Soft Power ของประเทศ สร้างเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละพื้นที่ และส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า ตลาดสุราในประเทศไทยมียอดขายราว 5 แสนล้านบาทต่อปี สามารถสร้างภาษีสรรพสามิตต่อปีได้ราว 1.5 แสนล้านบาท แต่คิดเป็นภาษีที่มาจากสุราชุมชนเพียงไม่ถึง 1%
หากสามารถส่งเสริมสุราชุมชนให้มีส่วนแบ่งได้มากขึ้นจะช่วยกระจายรายได้ และสร้างการขยายตัวของเศรษฐกิจชุมชนด้วย โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมารัฐบาลได้ทดลองมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและสุราชุมชน ผ่านการลดภาษีตามมูลค่า ของสุราแช่พื้นเมืองและสุราแช่ผลไม้ที่มีส่วนผสมขององุ่น ให้เหลือ 0% แม้ทำให้สินค้ามีราคาถูกลง แต่สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศผ่านการจัดเก็บรายได้จากภาษีสุราชุมชนในภาพรวมได้สูงขึ้นด้วย จึงสนับสนุนเป็นอย่างยิ่งหากจะสามารถมีมาตรการส่งเสริมที่สร้างแต้มต่อให้สุราชุมชนในประเทศต่อไป