กลายเป็นข่าวครึกโครมจากกรณีที่สาวชาวจังหวัดบุรีรัมย์รายหนึ่งเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ว่าถูกชายคนหนึ่ง ชื่อว่านายท็อป อ้างตัวเป็นนักธุรกิจรวยหมื่นล้านหลอกแต่งงานที่โรงแรมหรูใน จ.บุรีรัมย์ แต่กลับทิ้งให้ตนชดใช้หนี้เป็นจำนวนเงินกว่า 3.5 ล้านบาท
สังคมต่างจับตามองเรื่องราวของเสี่ยกำมะลอคนนี้ว่าเป็นใครมาจากไหนจนต่อมามีการขุดคุ้ยว่าแท้จริงแล้วผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นเสี่ยหมื่นล้านรายนี้เคยมีอาชีพเป็นคนรับเห็ดมาขาย ที่ตลาดลำลูกกา จ.ปทุมธานี เคยโกงเงินค่าเห็ดเป็นเงินร่วมแสนบาท และยังเคยอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีอีกด้วย
ต่อมาเพจดังอย่าง อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return.v13 ได้เปิดเผยประวัติการศึกษาของนายท็อปว่ามีการแอบอ้างเอกสารที่แสดงว่าเคยเรียนปริญญาโทที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่ตรวจสอบไม่ปรากฏชื่อของนายท็อปในทะเบียนประวัติ โดยทางเพจยังเปิดเผยข้อมูลว่านายท็อปเคยลงเรียนกับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านคลองประปา แต่ไม่รู้ว่าสำเร็จการศึกษาหรือไม่
นอกจากนี้ เพจดังยังเปิดเผยสเตทเมนต์ที่นายท็อปใช้หลอกเหยื่อทุกรายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของตัวเอง ทั้งๆ ที่ตัวเลขนั้นไม่มีจริง ทำให้เหยื่อหลงเชื่อ รวมถึงใช้รูปที่ถ่ายกับนักธุรกิจใหญ่ระดับประเทศ และรถยนต์ เครื่องบินส่วนตัว
จากนั้นได้มีผู้เสียหายออกมาแฉวีรกรรมของเสี่ยกำมะลอรายนี้ยาวเป็นหางว่าว ไม่ว่าจะเป็นถูกหลอกลงทุนเปิดบ่อนกาสิโน ถูกหลอกร่วมลงทุนจดทะเบียนบริษัทที่ฮ่องกง ถูกหลอกลวงเรื่องตั๋วเงินตราสาร อ้างว่ามีเงินเป็นพันล้านดอลลาร์ ถึงขั้นที่ 'แม่แท้ๆ' ของนายท็อปยังต้องขายสมบัติตามใช้หนี้ให้ลูกชาย
ติดต่อสร้างศาลาการเปรียญวัดดัง จ.นครพนม
นอกจากนี้ 'เสี่ยกำมะลอ' ยังเคยให้ตัวแทนติดต่อวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม เพื่อขอเป็นเจ้าภาพสร้างบูรณะศาลาการเปรียญของวัด และได้มีการประสานเรื่องการออกแบบศาลาการเปรียญนำมาเสนอเรียบร้อย งบประมาณ 30 ล้านบาท แต่ต่อมาทางวัดพบว่ามีความผิดปกติ เนื่องจากดำเนินการล่าช้า จึงยุติไม่ให้ดำเนินการต่อ เพราะเกรงว่าจะนำวัดไปกล่าวอ้างขอรับบริจาค ซึ่งโชคดีที่ทางวัดไม่ได้ทุบรื้อถอนศาลาการเปรียญจึงยังไม่ได้รับความเสียหาย
อ้างเป็นเป็นที่ปรึกษารัฐบาลไทย ติดต่อดูงานรัฐวิสาหกิจจีน
การก่อวีรกรรมของเสี่ยกำมะลอรายนี้ ไม่ได้มีแค่ในประเทศไทยเท่านั้น เพราะเขายังเคยติดต่อขอดูงานบริษัท ไชนา เรลเวย์ เอนจิเนียริง กรุ๊ป รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของรัฐบาลจีน โดยอ้างตัวเองว่ามีตำแหน่งระดับสูงในสำนักนายกรัฐมนตรีและเป็นที่ปรึกษาพิเศษของรัฐบาลไทย ทำให้ผู้บริหารของ ไชนา เรลเวย์ เอนจิเนียริง กรุ๊ป ให้การต้อนรับ อีกทั้งยังเปิดพื้นที่หวงห้ามหลายแห่งให้เสี่ยกำมะลอและคณะผู้ติดตามได้เข้าชมและถ่ายภาพด้วย ทำให้ล่าสุดบริษัทฯ ประกาศสอบสวนและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในอย่างเร่งด่วน
ด้าน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบก.ปอท.) ในฐานะโฆษก ปอท. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องนำเข้าไปปรึกษาในที่ประชุมระดับสูง เพื่อตรวจสอบว่าเป็นการกระทำที่แอบอ้างจริงหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ทราบว่าเกิดมาซักระยะแล้ว จึงต้องขอตรวจสอบย้อนหลัง หากพบว่ากระทำผิด ก็สามารถเอาผิดดำเนินคดีได้
อ้างเคยเป็นแฟนคนดัง
นอกจากเรื่องเงินๆ ทองๆ แล้ว เสี่ยกำมะลอรายนี้ ยังเคยอ้างว่าเคยเป็นแฟนกับคนดังอย่างแคทรียา อิงลิช , เทย่า โรเจอร์ และ อรปภัตร จันทรสาขา หรือ ไฮโซม่านฟ้า จนแฟนคลับเข้าไปคอมเมนต์ถามในอินสตาแกรมของแคทรียา อิงลิช ก่อนที่สาวแคทรียาจะตอบว่า “5555 งงมาก ไม่เคยรู้จักมาก่อน นางคงติดตามละครสามีสีทองมั้ง”
ตำรวจเผย เคยมี 3 หมายจับคดีเช็ค
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่านายท็อป มีหมายจับค้างเก่า 3 หมาย เป็นคดีความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค แต่ยอมความกับผู้เสียหายแต่ละรายเอาไว้ทั้งหมดเพื่อชดใช้แล้ว จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่สามารถดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ แต่ความผิดในคดีฉ้อโกงนั้นเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นแล้วก็สามารถเข้าแจ้งความสถานีตำรวจที่เกิดเหตุได้ภายใน 3 เดือน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาเพียง 3-4 วันเท่านั้น
ทั้งนี้หากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวต่อไป