ไม่พบผลการค้นหา
แกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวเยาวชน แจงเหตุเคลื่อนไหวทางการเมืองเพราะการกดทับทางสังคม ภายใต้ระบอบเผด็จการอำนาจนิยม

ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนิน ในช่วงบ่ายมีการเสวนา 'เยาวชนกับการเมือง' ที่จัดโดยกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร มีแกนนำกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองต่างๆ เข้าร่วมอาทิ กลุ่มประชาชนปลดแอก ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี (ฟอร์ด), กลุ่มนักเรียนเลว เบญจมาภรณ์ นิวาส, ผู้จัดงาน 'วิ่งไล่ลุง' ธนวัฒน์ วงค์ไชย, กลุ่มลูกพ่อขุนไม่รับใช้เผด็จการ ทิพอัปสร แก้วมณี 

ทัตเทพ กล่าวว่าการออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในนามกลุ่มประชาชนปลดแอกเป็นเพราะถูกกดทับทางสัมคมภายใต้ระบอบเผด็จการ รวมถึงปัญหาทางสังคมที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับได้รับผลกระทบจากความรุนแรงทางการเมืองช่วงปี 2556 -2557 ทำให้มีความสนใจทางการเมืองมากขึ้น และได้เรียนรู้กับปัญหากับอำนาจรัฐจนเริ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองในมหาวิทยาลัย จนโดนปลดออกจากการเป็นสภานิสิตจุฬาฯ และออกมาเคลื่อนไหวเกิดการตั้งเป็นกลุ่มเยาวชนปลดแอกขึ้นเพื่อเคลื่อนไหวทางการเมืองตั้งแต่ปี 2562 มาอย่างต่อเนื่อง จนถูกคุกคามตามดำเนินคดีหลายข้อหา และมีการรวมตัวครั้งใหญ่ ทำให้การต่อสู้ขยายต่อไปเรื่อยๆ ทั่วประเทศ เพื่อต้องการรีเซ็ตรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และให้เกิดการเลือกตั้งใหม่ 

เช่นเดียวกับ เบญจมาภรณ์ กล่าวว่าเหตุผลที่ออกมาเคลื่อนไหวเพราะถูกกดทับกับอำนาจนิยมจากในสังคมและครอบครัวมาโดยตลอด โรงเรียนฝึกให้เป็นทาสมากกว่าการสอนให้เป็นมนุษย์ โดยเฉพาะปัญหาระบบชายเป็นใหญ่ ที่เป็นการแบ่งแยกทางเพศในสังคมทั้งที่ผู้หญิงสามารถเป็นผู้นำได้ ส่วนตัวจึงอยากอยากโตมาในสังคมที่ดีมีรัฐสวัสดิการที่ดี


'ทัตเทพ' แง้ม เตรียมยกระดับการชุมนุม ต.ค.นี้

นอกจากนี้ ทัตเทพ ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้สภามีความบิดเบี้ยว ส่วนตัวอยากให้มีแนวทางกลับมาในทางที่ดีขึ้น ตนหวังว่าข้อเรียกร้องของเราจะเริ่มดำเนินการแล้ว แต่สุดท้ายเขายื้อไปอีก 30-45 วัน สิ่งนี้แสดงถึงการไม่เห็นหัวประชาชน มันคือสิ่งที่น่าอัปยศที่สุดในการเมืองไทย

"การเคลื่อนไหวในสภาคือการเลี่ยงการปะทะ ทำไมถึงได้ละทิ้งโอกาสนี้ ทำไมถึงปิดประตูใส่ประชาชน เหมือนกำลังผลักให้ประชาชนลงถนน" ทัตเทพ กล่าว

ส่วนการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป ทัตเทพ กล่าวว่า ขอให้พ้นวันที่ 30 ก.ย.นี้ไปก่อน หาก ส.ว.ที่นั่งในสภา ยังไม่ทำตามข้อเรียกร้องอย่างเป็นรูปธรรม เดือน ต.ค.เราจะกลับมายกระดับการชุมนุมอย่างแน่นอน ส่วนจะเป็นอย่างไรหรือที่ไหนก็รอติดตาม