Travel Marvel ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2556

ช่วง Travel Marvel วันนี้ เราจะพาคุณผู้ชม ไปเที่ยวที่ปราสาทหินที่สวยที่สุด และเก่าแก่ที่สุดในประเทศลาว นั่นก็คือปราสาทหินวัดพูนั่นเอง สถานที่แห่งนี้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งที่สอง ต่อจากหลวงพระบาง  ปัจจุบัน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของจังหวัดจำปาสัก ที่ใครที่ได้เดินทางไปเยือนลาวใต้ แล้วไม่แวะไปปราสาทหินวัดพู ก็อาจเรียกได้ว่า มาไม่ถึงลาวใต้  

ก่อนที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ จะมีคำตัดสินเรื่องปราสาทพระวิหาร ที่เป็นประเด็นพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชามาอย่างช้านาน ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ หลายคนคงพุ่งความสนใจไปที่ตัวปราสาทพระวิหาร ทั้งในด้านของประวัติความเป็นมา และต้นกำเนิดของเหตุพิพาทระหว่างไทยและกัมพูชา จนอาจจะลืมไปว่า หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีปราสาทหินอีกหลายแห่ง ที่มีความสวยงาม และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไม่แพ้กัน ซึ่งนอกเหนือจากปราสาทหินนครวัด นครธม ในประเทศกัมพูชาแล้ว ก็ยังมีปราสาทหินอีกแห่งหนึ่ง ที่เป็นปราสาทหินที่สวยที่สุดในประเทศลาว และมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปเป็นจำนวนมาก ปราสาทหินดังกล่าว มีชื่อว่า ปราสาทหินวัดพู

ปราสาทหินวัดพู ตั้งอยู่บนเนินเขาภู ในจังหวัดจำปาสักของลาว สถานที่ตั้งของปราสาทหินแห่งนี้ เรียกว่าอยู่ในทำเลที่ดีมากๆ เพราะนอกจากเรื่องของความสูงของเนินเขาแล้ว ด้านล่างยังถูกโอบล้อมด้วยแม่น้ำโขงอีกด้วย ทำให้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ปราสาทหินวัดพูแห่งนี้ เป็นเทวสถานขอม คล้ายกับเขาพระวิหาร ก่อสร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 12 ก่อนนครวัด ในสมัยของพระเจ้ามเหนทรวรมัน ซึ่งจุดประสงค์ของการก่อสร้างก็คือใช้เป็นที่บูชาเทพเจ้า ตามความเชื่อของศาสนาฮินดู ซึ่งหากใครที่เคยไปเยือนนครวัดแล้ว และมาเยือนที่วัดพู ก็จะเห็นได้ถึงความเหมือนบนความแตกต่าง ของทั้งสองสถานที่ สิ่งที่เหมือนกันก็คืองานสถาปัตยกรรม ที่แน่นอนว่าเป็นอิทธิพลมาจากการแผ่ขยายอำนาจของอาณาจักรขอม แต่สิ่งที่แตกต่างกันก็คือภูมิประเทศ เนื่องจากปราสาทวัดพู มีแม่น้ำโขงอยู่เบื้องหน้า มีทุ่งเพียงหรือพื้นราบอยู่ตรงกลาง จึงเป็นที่ตั้งที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ก็แฝงไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์  ชาวเมืองโบราณ จึงเสมือนได้อยู่อาศัยภายใต้ร่มเงาและใกล้ชิดเทพเจ้ามากกว่าถิ่นใด

ปัจจุบัน ปราสาทวัดพู ถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวพุทธ เพราะว่านับตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 เป็นต้นมา ศาสนาพุทธได้เข้ามาแทนที่ศาสนาฮินดู ทำให้ศาสนสถานที่เคยเป็นของอาณาจักรขอมมาก่อน ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งาน เพื่อตอบรับกับความเปลี่ยนแปลงทางสังคม ทำให้ตอนนี้ มีพระพุทธรูปมากมาย ถูกนำมาวางเรียงรายโดยรอบของตัวปราสาทหิน

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวที่ปราสาทวัดพู นอกจากจะเป็นช่วงฤดูหนาวแล้ว ก็ยังเป็นช่วงวันเพ็ญเดือน 3 ซึ่งตรงกับเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี โดยงานดังกล่าวมีชื่อว่า "งานประจำปีวัดภู" จัดขึ้นประมาณ 3 วัน ถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งตลอดระยะทางระหว่างการเดินทางขึ้นยังปราสาทพูนั้น จะมีการจัดกิจกรรมมากมาย เช่น การวิ่งวัว วิ่งควาย การแข่งวิ่งช้าง และการเปิดร้านขายสินค้าต่างๆ  โดยมีนักท่องเที่ยว และชาวลาวเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก