การเปิดประเทศและพัฒนาแบบก้าวกระโดดของรัฐบาลนายเต็ง เส่ง แต่ปัญหาหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการเหลียวแลแก้ไขในเมียนมาร์ ก็คือการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการใช้แรงงานเด็ก
เมียนมาร์อาจจะกำลังเป็นประเทศเนื้อหอมที่ทั่วโลกอยากเข้าไปลงทุน การพัฒนาเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม จากการเปิดประเทศและพัฒนาแบบก้าวกระโดดของรัฐบาลนายเต็ง เส่ง แต่ปัญหาหนึ่งที่ยังไม่ได้รับการเหลียวแลแก้ไขในเมียนมาร์ ก็คือการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการใช้แรงงานเด็ก ที่ล่าสุดมีการจัดอันดับว่าเมียนมาร์ใช้แรงงานเด็กมากเป็นอันดับ 3 ของโลก
ผู้ที่จัดอันดับการใช้แรงงานเด็กทั่วโลกครั้งนี้ คือเมเปิลครอฟท์ บริษัทประเมินความเสี่ยงชื่อดังของโลก เมเปิลครอฟท์ โดยจัดอันดับจาก 197 ประเทศทั่วโลก ปรากฏว่าประเทศที่ติดอันดับหนึ่งร่วม ได้แก่เอริเทรียและโซมาเลีย ส่วนรองลงมาก็คือคองโกและเมียนมาร์ ที่ได้ที่ 3 ร่วมกัน
นอกจากนี้ ประเทศส่วนใหญ่ที่ติด 1 ใน 10 ประเทศที่ใช้แรงงานเด็กมากที่สุดในโลก ล้วนแต่อยู่ในแอฟริกาและตะวันออกกลาง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าการใช้แรงงานเด็กในประเทศเหล่านี้ เกิดจากปัญหาความยากจน ท��่บังคับให้เด็กต้องช่วยพ่อแม่หาเงินก่อนถึงวัยอันควร และไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ หรือใช้ชีวิตตามปกติ
แต่ยังมีอีกหลายประเทศ ที่ความยากจนไม่ใช่สาเหตุหลักของการใช้แรงงานเด็ก แต่เป็นการที่รัฐไม่เคร่งครัดในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองเด็กและเยาวชน เช่นในจีน รัสเซีย อินเดีย และบราซิล มีปัญหาการใช้แรงงานเด็กสูงมาก โดยเฉพาะจีน ที่ปัญหาแรงงานเด็กเลวร้ายลงมาก จนทำให้อันดับการใช้แรงงานเด็กของจีนขึ้นจากปีที่แล้ว ที่ 53 ของโลก มาอยู่ที่อันดับที่ 20 ของโลก
รายงานฉบับนี้ยังกล่าวอีกว่า ปัญหาใช้แรงงานเด็ก ไม่ได้อยู่ในรูปแบบของการค้ามนุษย์ หรือการใช้แรงงานในชนบทเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีรูปแบบของการฝึกงาน โดยให้ค่าจ้างราคาถูกหรือไม่ให้เลย แต่ใช้งานหนัก หรือการจ้างงานชั่วคราวในช่วงปิดเทอม โดยไม่ให้ค่าแรงเด็ก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ปัญหาใช้แรงงานเด็กแบบบังคับขู่เข็ญหรือเด็กโดนหลอกกลับเริ่มลดลง