สัปดาห์ทีผ่านมา แพนด้า "หลินปิง" ได้เดินทางออกจากประเทศไทย เพื่อไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อทำการเลือกคู่ ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทยในปีหน้า ซึ่งสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับแพนด้า"หลินปิง" ตลอด 4 ปี 4 เดือนที่กำเนิดในประเทศไทย และ ครอบครัวแพนด้า"ช่วงช่วง" และ "หลินฮุย" 10 ปีที่ผ่านมา มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

นี่คือภาพแรก หลังจากที่แพนด้าหลินปิง วัย 4 ขวบ 4 เดือน เดินทางออกจากท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา  ด้วยเที่ยวบินพิเศษ เช่าเหมาลำของการบินไทย ทีจี 8138 ในชื่อ"หลินปิงลัดฟ้าหารัก" เดินทางมาถึงเมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อให้แพนด้าหลินปิงได้อยู่ที่ศูนย์อนุรักษ์แพนด้าปี่เพิงเซี๊ยะ เป็นเวลา 1 ปี แม้"หลินปิง"จะส่งเสียงร้องขู่และมีอาการตื่นกลัวเดินวนไปรอบกรง แต่นี่ก็ถือเป็นครั้งแรกที่หลินปิงเดินทางออกมาจากประเทศไทย และเป็นวันเกิดครบรอบ 12 ปีของแพนด้าหลินฮุ่ย ที่ให้กำเนิด"หลินปิง"

การรับมอบแพนด้า"หลินปิง"ซึ่งเปรียบเสมือน ทูตสันถวไมตรีของทั้ง 2 ประเทศ ที่ศูนย์อนุรักษ์แพนด้าปี่เพิงเซี๊ยะ เป็นไปอย่างสมเกียรติ จากผู้แทนของไทยและจีน รวมทั้งสื่อมวลชนของทั้ง 2 ประเทศ และแฟนคลับของ"หลินปิง"ที่เดินทางมาพร้อมกับเที่ยวบินพิเศษในครั้งนี้ หัวหน้างานอนุรักษ์ ฝ่ายอนุรักษ์ วิจัยและสุขภาพสัตว์ สวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งดูแล"หลินปิง" ระบุว่า หลินปิงนั้นมีสุขภาพที่แข็งแรง และสามารถที่จะปรับตัวกับการอยู่ในสถานที่ใหม่ ก่อนที่จะได้ผสมพันธุ์กับแพนด้าตัวผู้ที่เตรียมไว้ถึง 6 ตัว  ก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย พร้อมกับแพนด้าตัวผู้

ทั้งนี้ ศูนย์อนุรักษ์แพนด้าปี่เพิงเซี๊ยะตั้งอยู่ที่เมืองเฉิงตู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของมณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นสถานที่เพาะพันธุ์และบ้านของแพนด้ากว่าร้อยละ 30 ของแพนด้าทั่วโลก และเป็นบ้านเกิดของช่วงช่วง หลินฮุ่ย แพนด้าอีกคู่หนึ่งที่รัฐบาลจีนมอบให้รัฐบาลไทย ในการจัดแสดงในสวนสัตว์เชียงใหม่ และศูนย์แห่งนี้กว้างขวาง และอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชพันธุ์นานาชนิดกว่า 5,000 - 6,000 สปีชีส์

ซึ่งนางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะแฟนคลับของแพนด้าหลินปิง แสดงความห่วงใยและเชื่อว่า หลินปิงเปรียบเสมือนหัวใจของคนไทยที่ฝากไว้ให้ทางการจีนดูแลเป็นอย่างดี

ทั้งนี้ แพนด้าหลินปิง เพศเมีย เกิดจากผสมเทียมของแพนด้า "ช่วงช่วง" และ "หลินฮุ่ย" ที่เดินทางมาเป็นทูตสัตวไมตรี ระหว่างไทยและจีน ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ตั้งแต่ปี 2546 ก่อนที่หลินฮุยจะถือกำเนิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2552 เวลา 10.39 น. ขณะที่ชื่อของหลินปิง มาจากการประกวดตั้งชื่อแพนด้าน้อย ชิงเงินรางวัล 1 ล้านบาท ซึ่งมีไปรษณียบัตรโหวตชื่อแพนด้าสูงกว่า 29 ล้านฉบับ โดยคนไทยโหวดเลือกชื่อ "หลินปิง" ที่มีควาหมายว่า "ป่าน้ำแข็ง" กว่า 14 ล้านฉบับ

ที่ผ่านมาครอบครัวแพนด้า สร้างรายได้ให้สวนสัตว์เชียงใหม่ขององค์การสวนสัตว์ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา สูงถึง 300 ล้านบาท โดยเฉพาะหลินปิง ที่กำเนิดในไทยมาแล้ว 4 ปี สร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท จากการขายบัตรเข้าชมแพนด้าทั้งครอบครัว รวมทั้งการจัดกิจกรรม หรืออีเวนท์ต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ไทยและจีนมีข้อตกลงร่วมกัน คือ ช่วงช่วงและหลินฮุ่ย จะอยู่ในประเทศไทยได้ 10 ปี และ กำหนดว่า ลูกแพนด้าที่ถือกำเนิดขึ้นจากพ่อแม่แพนด้าทุกตัวที่จีน ให้ยืมสำหรับจัดแสงตามสวนสัตว์ต่างๆ เมื่อมีอายุ 2 ปีจะต้องถูกส่งกลับ แต่ไทยได้ขอต่อสัญญามาแล้ว 1 ครั้ง จนครบ 4 ปีในปีนี้

และถือเป็นการต่อสัญญาที่ทางการจีนเคยอนุโลมให้เพียง 2 ประเทศ คือ ไทยและสหรัฐอเมริกา ซึ่งยังไม่มีประเทศใดในโลกเคยได้รับการต่อสัญญาเป็นครั้งที่ 3

ขณะที่การผสมพันธุ์ของแพนด้าจะมีปีละ 1 ครั้ง ช่วงฤดูใบไม้ผลิ ระหว่างเดือนมีนาคม - เมษายน โดยแพนด้าเพศผู้จะพร้อมผสมพันธุ์อายุ 5.5 - 7.5 ปี ขณะที่แพนด้าเพศเมีย จะพร้อมผสมพันธุ์อายุ 5.5 - 6.5 ปี แต่ระยะเวลาที่จะยอมให้ผสมพันธุ์มีแค่ปีละ 3 วันเท่านั้น โดยจะมีพฤติกรรมติดสัดออกมา เพื่อเรียกร้องความสนใจของตัวผู้

ขณะที่ หลินปิง จะเดินทางมาพร้อมกับแพนด้าตัวผู้ กลับมายังประเทศไทยอีกครั้งในปี 2557 และอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลา 15 ปี รวมทั้งการผสมเทียมหลินฮุ่ยอีกครั้งของสวนสัตว์เชียงใหม่ ซึ่งหากโชคดี หลินฮุ่ยตั้งท้อง ก้จะมีแพนด้าน้อยเกิดขึ้นในไทยอีกครั้งในต้นปีหน้าด้วยเช่นกัน

แต่สิ่งที่คนไทยที่รักครอบครัวแพนด้าจะต้องทราบ นั่นก็คือ เมื่อหลินปิงกับแพนด้าตัวผู้กลับมาเมืองไทย แพนด้าช่วงช่วงกับหลินฮุ่ย จะเดินทางกลับทันที แต่หากหลินฮุ่ยเกิดท้องและตกลูกก่อนหลินปิงกลับ ตามข้อตกลงจะอยู่ในไทยต่ออีก 2 ปี ส่วนช่วงช่วงต้องกลับจีนตามสัญญา

ดังนั้นคนไทยจึงต้องเอาใจช่วยให้ครอบครัวแพนด้ามีแพนด้าน้อย เพื่อที่จะสร้างความน่ารัก ความสุขให้กับคนไทย รวมทั้งยังคงเป็นทูตสัตถวไมตรีของทั้งจีนและไทย ให้ยาวนานต่อไป