โฆษกอัยการสูงสุด ชี้แจงกรณีเห็นต่างจาก ป.ป.ช.ในการสั่งฟ้องคดีทุจริตรถและ เรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร เพราะหลักฐานไม่พอเอาผิด 'โภคิน-วัฒนา-อภิรักษ์'
โฆษกอัยการสูงสุด ชี้แจงกรณีเห็นต่างจาก ป.ป.ช.ในการสั่งฟ้องคดีทุจริตรถและ เรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร ที่ไม่ฟ้องนายโภคิน พลกุล ,นายวัฒนา เมืองสุข และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตัดสินยกฟ้องเมื่อวานนี้(10 ก.ย.) เพราะหลักฐานไม่เพียงพอในการเอาผิด พร้อมแนะให้ กทม.นำรถและเรือดับเพลิงที่ซื้อมาในราคาแพงมาใช้งาน
นายวินัย ดำรงค์มงคลกุล โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ชี้แจงกรณีความเห็นต่างกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ในคดีทุจริตจัดซื้อรถ - เรือดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กระทั่งมีคำพิพากษาาจำคุก 12 ปีนายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และจำคุก 10 ปี พลตำรวจตรีอธิลักษณ์ ตันชูเกียรติ อดีตผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร เมื่อวานนี้ (10 ก.ย.)
คดีนี้ อัยการสูงสุดและ ป.ป.ช. มีความเห็นต่าง จึงคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาในสัดส่วนที่เท่ากัน ซึ่งอัยการสูงสุดยังสรุปความเห็นต่าง จาก ป.ป.ช.คือ สมควรสั่งไม่ฟ้องนายโภคิน พลกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย , นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพราะพยานหลักฐานไม่เพียงพอต่อข้อกล่าวหา
ขณะที่ ป.ป.ช.เห็นสมควรฟ้องทั้งหมด จึงทำให้ ป.ป.ช.ต้องแต่งตั้งทนายความฟ้องต่อศาลฎีกาเอง ตามอำนาจมาตรา 23 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เห็นว่า กรุงเทพมหานคร สามารถนำรถและเรือดับเพลิง ออกมาใช้ประโยชน์ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ เสร็จสิ้นกระบวนการไต่สวนของคณะอนุญาโตตุลาการ ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เหมือนกรณีเครื่องตรวจกระเป๋า ซีทีเอ็กซ์ เพื่อให้งานส่วนราชการเดินหน้าได้
มีรายงานข่าวจากฝ่ายการเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร แจ้งว่า กระบวนการชั้นไต่สวนของคณะอนุญาโตตุลาการในคดีนี้ที่ยังไม่แล้วเสร็จ เพราะได้มีการต่อสู้ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา แต่คาดว่าการตัดสินของคณะอนุญาโตตุลาการจะเกิดขึ้นในช่วงปลายปีนี้
สำหรับการจัดซื้อครั้งนี้แบ่งเป็น รถดับเพลิงจำนวน 315 คัน และเรือดับเพลิงอีกจำนวน 30 ลำ ซึ่งมีจำนวนหนึ่งได้จอดอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี