เมื่อวานนี้ (6 ก.พ.63) ที่ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานดูแลคนไทยกลับจากอู่ฮั่น พร้อมติดตามความเป็นอยู่ของคนไทยที่เฝ้าระวังในเรือนรับรองฐานทัพเรือสัตหีบ พร้อมมอบโทรศัพท์ ซิมโทรฟรี และเยี่ยมผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
นายอนุทิน กล่าวว่า ได้นำเรียนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงความร่วมมือและความเรียบร้อยของภารกิจนำคนไทยกลับบ้าน ของกระทรวงสาธารณสุขกับกองทัพเรือ ต้องขอบคุณกองทัพเรือที่จัดเตรียมสถานที่ไว้รองรับผู้ที่อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง รวมทั้งเตรียมโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ รับผู้เดินทางที่เจ็บป่วย
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข ให้การดูแลคนไทยกลับบ้านทั้งด้านสุขภาพ ความเป็นอยู่ ให้ดีที่สุด จากการทำหน้าที่ด้วยความทุ่มเท ตั้งใจ ทำให้สถานการณ์เป็นไปในทางที่ดี ล่าสุดคนขับแท็กซี่คนไทยรายแรกที่ติดเชื้อในประเทศ ได้รับการดูแลจนหายป่วย กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ และขอยืนยันว่าจะไม่มีการปกปิดข้อมูล จะแถลงสถานการณ์ คำแนะนำการใช้ชีวิตให้ปลอดภัยแก่ประชาชนในทุกวัน เชื่อว่าประชาชนมีความเข้าใจและมั่นใจ ว่าจะสามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ขอให้ยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย ออกกำลังกาย เราก็จะปลอดภัยจากโรคนี้
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ในช่วง 2 วันแรก ยังไม่ได้อนุญาตให้คนไทยกลับบ้านติดต่อกับญาติ เพราะต้องตรวจเช็คสุขภาพ ให้มั่นใจว่าร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยที่จะแพร่โรคให้คนในครอบครัวและคนรอบข้าง และทำความสะอาดโทรศัพท์ โดยในวันนี้ ได้คืนโทรศัพท์ พร้อมมอบซิมโทรฟรีจาก บริษัท กสท โทรคมนาคม (จำกัด) เพื่อให้ใช้ติดต่อสื่อสาร
"เชื่อว่าเมื่อได้ใช้โทรศัพท์พูดคุยกับบุคคลที่เป็นที่รักแล้ว ได้เห็นหน้าเห็นตากันผ่านเครื่องมือสื่อสารก็จะเกิดความสบายใจ ซึ่งเราพิจารณาแล้วว่าวันนี้มีความเหมาะสม โทรศัพท์ได้รับการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ขอให้ใช้พูดคุยกับคนในครอบครัว คนสนิท และขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้เคารพความเป็นส่วนตัว อีกไม่กี่วันคนไทยกลุ่มนี้ก็จะได้กลับบ้านแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่ต้องกังวล จะดูแลจนพ้นระยะฟักตัวของเชื้อโรค เบื้องต้นกำหนดไว้ 19 กุมภาพันธ์ 2563 และ ในระหว่างนี้ก็จะดูแล เช็คสุขภาพ อาจจะได้กลับก่อนกำหนด ขึ้นอยู่กับมาตรฐานการรักษา และดุลยพินิจของแพทย์" นายอนุทินกล่าว
ทั้งนี้ ขอให้มั่นใจในการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข ประเทศไทยไม่ใช่เมืองต้นกำเนิดของโรคแต่การคัดกรอง การเก็บตัว เป็นไปอย่างเข้มข้น หวังว่าอีก 12 วัน จะมีข่าวดีอนุญาตให้กลับบ้านได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :