นพ.ทศพร เสรีรักษ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย นำผู้รับบาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุมที่หน้ารัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 มาแถลงกับสื่อมวลชน โดยระบุ ตนได้รับการร้องเรียนจากผู้บาดเจ็บซึ่งแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. ผู้ที่ถูกยิงด้วยอาวุธปืน โดยถูกยิงที่ขา 2 คน ส่วนท้องสีข้าง 1 คน รายที่หนักที่สุด คือ ถูกยิงที่ขาซ้ายกระดูกหัก แพทย์ได้ผ่าตัดนำกระสุนออกและดามเหล็กไว้แล้ว
2. ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากก๊าซสารเคมี โดยจะมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ไอ จาม บางส่วนยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาล
3. ผู้บาดเจ็บจากน้ำผสมสารเคมี ซึ่งผลกระทบโดยตรงจะมีรอยเหมือนถูกไฟไหม้ที่บริเวณหลังและศีรษะเนื่องจากสารเคมีได้ทำลายผิวหนังชั้นนอกไปจนถึงหนักแท้ บางรายอาการหนักมาก และขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าสารเคมีที่เจ้าหน้าที่ใช้เป็นสารชนิดใด แต่เจ้าหน้าที่นิติเวชได้เก็บตัวอย่างของสารเคมีไว้แล้ว
ทั้งนี้ขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี รัฐบาลและตำรวจไม่ควรใช้กำลัง กับประชาชนในลักษณะเช่นนี้อีก เพราะการชุมนุมที่ผ่านมาก็เป็นไปอย่างสงบสันติปราศจากอาวุธ
ส่วนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงว่าเจ้าหน้าที่ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับประชาชน นพ.ทศพร กล่าวว่า เป็นเรื่องเหลวไหล ไม่เป็นความจริง เพราะการใช้แก๊สน้ำตากับน้ำผสมสารเคมีเป็นการยิงมาจากฝั่งตำรวจหากได้รับผลกระทบก็คงเป็นแค่ละอองซึ่งไม่รุนแรงเหมือนกับที่ประชาชนถูกกระทำโดยตรง หลังจากนี้อยากให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบติดต่อมาที่ศูนย์อำนวยการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมพรรคเพื่อไทยได้ทุกวันจะมีเจ้าหน้าที่ค่อยให้การช่วยเหลือทั้งทางคดีแพ่ง อาญา และการรักษาร่างกาย รวมไปถึงจะนำเรื่องเข้าสู่กรรมาธิการต่างๆ ของสภาผู้แทนราษฎรเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย
หนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเปิดเผยว่า ตนถูกน้ำผสมสารเคมีฉีดที่แยกเกียกกายซึ่งทันทีที่โดนรู้สึกว่ามีความแตกต่างกว่าครั้งที่ผ่านมา มีอาการแสบกว่าเดิม และเมื่อล้างตัว ฟอกด้วยสบู่วันรุ่งขึ้นเกิดตุ่มใสเป็นแผลพุพองตามลำตัวจำนวนมาก จึงได้ไปหาหมอที่คลินิก เมื่อหมอสอบถามอาการ ทราบว่าเกิดจากอาการแพ้น้ำที่ผสมสารเคมี จึงนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลต่อไป เนื่องจากติดเชื้อในระดับเซลล์อย่างรุนแรง
เกวลัง ธัญญเจริญ ประสานงานกลุ่มทีมอาชีวะพิทักษ์ประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกยิงที่แยกเกียกกาย เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหตุยิงกันบริเวณพื้นที่ชุมนุมเกิดขึ้นช่วงเวลา 20.00 น. ของวันที่ 17 พ.ย. ไม่ใช่ช่วง 17.00 น. เหมือนที่ภาพที่ปรากฏในโซเชียลมีเดีย ตนถูกยิงบริเวณหน้าขาซ้าย เข้าไปประมาณ 1 คืบ แพทย์ผ่ากระสุนออกแล้ว กระสุนค่อยข้างสมบรูณ์ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี ขณะเดียวกัน 'เกวลัง' ได้โชว์พระเครื่องที่สวมใส่อยู่จำนวน 2 องค์ คือ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า รุ่นแจกแม่ครัวพิมพ์ใหญ่ และอีกองค์หนึ่ง คือ พระพิษณุ ที่สถาบันการศึกษาของตนปลุกเสก ซึ่งตนได้แขวนมานานแล้วและเชื่อว่าทำให้แคล้วคลาดจากเหตุถูกยิง ทำให้ได้รับบาดเจ็บไม่มากนัก