ดร.นลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย ได้พบหารือกับ Mr. Tarek Al Ashram ประธานบริษัท Gulf Data Hub เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2568 โดยมีนายสรยุทธ ชาสมบัติ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี, นางสาวนิภา นิรันดร์นุต กงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ, นายปิติชัย รัตนนาคะ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ, กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เข้าร่วม 

การพบหารือครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากการประชุมหารือออนไลน์เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งบริษัท Gulf Data Hub ได้แสดงความสนใจที่จะขยายการลงทุนด้าน Data Center ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย พร้อมทั้งได้เชิญ ดร.นลินี และคณะฯ เดินทางเยือนสำนักงานใหญ่ และศูนย์ Data Center ณ เมืองดูไบ ภายในเขต Dubai Silicon Oasis เพื่อเยี่ยมชมเทคโนโลยีและศักยภาพการดำเนินงานของบริษัท ทั้งนี้ Gulf Data Hub ถือเป็นผู้นำธุรกิจ Data Center รายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยมีศูนย์ข้อมูลตั้งอยู่ในเมืองและประเทศสำคัญหลายแห่ง ได้แก่ ยูเออี (ดูไบ, อาบูดาบี) ซาอุดีอาระเบีย (ดัมมัม, เจดดาห์) คูเวต อียิปต์ และตุรกี ซึ่งบางแห่งยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมีศักยภาพขนาดการให้บริการรวมกว่า 160 เมกะวัตต์ (MW)

บริษัท Gulf Data Hub ได้ใช้โอกาสนี้เน้นย้ำถึงจุดแข็งที่ทำให้บริษัทฯ ได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยเฉพาะการให้บริการที่ได้มาตรฐานระดับโลก ครบวงจรตั้งแต่ขั้นตอนการก่อสร้างศูนย์ ระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ และระบบสำรองด้านพลังงาน สามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้บริษัทฯ ก้าวขึ้นเป็นศูนย์จัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก อาทิ Microsoft, Alibaba, Google, Huawei และ Amazon 

ในขณะเดียวกัน ดร.นลินี ได้นำเสนอศักยภาพของประเทศไทยในฐานะแหล่งลงทุนด้าน Data Center ที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยชูจุดเด่นด้านตำแหน่งที่ตั้งยุทธศาสตร์ใจกลางภูมิภาค บุคลากรที่มีคุณภาพ และโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับการลงทุนได้เป็นอย่างดี ทั้งระบบไฟฟ้าที่มีความเสถียร รองรับการจ่ายพลังงานได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีนิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะและเขตส่งเสริมพิเศษ เช่น เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งได้จัดสรรพื้นที่สำหรับ Data Center โดยเฉพาะ นอกจากนี้ ยังมีสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนจาก BOI เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 8 ปี การยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ และการให้บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานแบบเร่งด่วนสำหรับผู้เชี่ยวชาญ จึงถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับบริษัท Gulf Data Hub ในการขยายการลงทุนในประเทศไทยเพื่อเพิ่มฐานลูกค้า ต่อยอดธุรกิจ และมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงเครือข่ายดิจิทัลในภูมิภาคและในระดับโลกต่อไป

ดร.นลินี กล่าวทิ้งท้ายว่า การเยือนบริษัท Gulf Data Hub ในครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน ตลอดจนได้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีดิจิทัลอันล้ำสมัยของบริษัท ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพในฐานะผู้นำธุรกิจ Data Center ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยฝ่ายไทยมีความพร้อมและยินดีที่จะทำงานร่วมกับบริษัท Gulf Data Hub อย่างใกล้ชิด เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการลงทุน ทั้งในด้านการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการให้ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างเรียบร้อย ราบรื่น และบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ได้อย่างเป็นรูปธรรม