ไม่พบผลการค้นหา
โลกตะวันออกกลางมักถูกวิจารณ์ถึงปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ อย่างไรก็ดี สัญญาณบวกนี้เกิดขึ้นที่คูเวต หลังศาลรัฐธรรมนูญของประเทศตัดสินว่า กฎหมายการห้ามการเลียนแบบทางเพศต่อกลุ่มคนข้ามเพศนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ

แต่เดิมที รัฐสภาของคูเวตได้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 198 ของประเทศในปี 2550 ให้การเลียนแบบทางเพศนั้นเป็นความผิด อย่างไรก็ดี ศาลรัฐธรรมนูญของคูเวตได้นั่งบัลลังก์เพื่อพิจารณากฎหมายดังกล่าวใหม่ ก่อนมีคำตัดสินชี้ว่า การห้ามบุคคลไม่ให้เลียนแบบเพศตรงข้ามได้นั้นเป็นเรื่องที่ผิดรัฐธรรมนูญของประเทศ

การเป็นกลุ่มคนหลากหลายทางเพศในคูเวตยังคงเป็นเรื่องที่สังคมมมองว่าเป็นเรื่องผิดไปจากจารีตตามศาสนา โดยกฎหมายฉบับดังกล่าวมีโทษจำคุก 1 ปี และโทษปรับเป็นเงิน หากมีการพบผู้กระทำความผิดที่เป็นกลุ่มคนข้ามเพศซึ่งมีพฤติกรรมเลียนแบบเพศตรงข้ามไปจากเพศกำเนิดตนเอง

กฎหมายการห้ามเลียนแบบทางเพศของคูเวตมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถเรียกตรวจ จับกุม และดำเนินคดีผู้คนที่มีรูปลักษณ์ภายนอกทางเพศไม่ตรงกันกับเพศของตนเองที่ระบุในบัตรประจำตัวประชาชน โดยนักรณรงค์สิทธิทางเพศของคูเวตระบุว่า หญิงข้ามเพศหลายคนมักถูกเรียกตรวจตามด่าน และหลายรายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุกตามทางเพศ ทำร้ายร่างกาย และจับเข้าเรือนจำ

หลังจากคำตัดสินดังกล่าว แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญคูเวตในกรณีนี้ ถือได้ว่าเป็นพัฒนาการ “ครั้งใหญ่แก่สิทธิของกลุ่มคนข้ามเพศในภูมิภาค” ตะวันออกกลาง 

ลินน์ มาลูฟ รองผู้อำนวยการกลุ่มสิทธิมนุษยชนตะวันออกกลางระบุว่า กฎหมายห้ามการเลียนแบบทางเพศนั้น “เลือกปฏิบัติอย่างรุนแรง มีความคุลมเครืออย่างมาก และไม่ควรได้รับการยอมรับให้เป็นกฎหมายตั้งแต่แรก” มาลูฟยังได้เรียกร้องขอให้ทางการคูเวตทำการยกเลิกกฎหมายมาตรา 198 ออกโดยสมบูรณ์ด้วย

นอกจากนี้ กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนได้เรียกร้องขอให้ทางการคูเวตทำการปล่อยตัว มาฮา อัล-มูไทรี หญิงข้ามเพศวัย 40 ปี ผู้กำลังถูกจองจำจากความผิดตามกฎหมายมาตรา 198 หลังจากที่เธอได้โพสต์วิดีโอของตนเองแต่งหน้า และพูดในประเด็นอัตลักษณ์ของการเป็นคนข้ามเพศ รวมถึงการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลคูเวต

นอกจากนี้ เมื่อ มิ.ย. 2563 มูไทรีได้โพสต์วิดีโอของตนเองลงในแอพพลิเคชัน Snapchat โดยเธอกล่าวหาว่า ตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจข่มขืนและทำร้ายร่างกาย หลังจากที่เธอถูกจับกุมคุมขังครั้งก่อนในปี 2562 ทั้งนี้ มูไทรีถูกคุมขังในเรือนจำชาย และไม่ได้รับสิทธิใดๆ ตามเพศของเธอ

กฎหมายอาญาของคูเวตยังคงมีโทษของการมีความสัมพันธ์นอกสมรส รวมถึงการลงโทษคนรักเพศเดียวกันระหว่างชายกับชาย โดยกลุ่มผู้กระทำความผิดอาจถูกตัดสินจำคุกนานสูงสุดถึง 7 ปี ปัจจุบันนี้ กลุ่มคนข้ามเพศในคูเวตจำเป็นจะต้องแต่งตัวเป็นผู้ชาย และแอบซ่อนผมที่ยาวของพวกเธอ หลายคนถูกจับกุมจากการมีเสียงที่เล็กแหลม และผิวที่เนียนกว่าผู้ชาย

ที่มา:

https://www.bbc.com/news/world-middle-east-60402700

https://www.nytimes.com/2022/02/16/world/middleeast/kuwait-overturns-transgender-law.html