ไม่พบผลการค้นหา
'นิพนธ์' ยืนยันความบริสุทธิ์ พร้อมชี้แจงรายละเอียดทุกข้อร้องเรียนของ ‘ศรีสุวรรณ’

ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อคัดค้านการพิจารณาให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากมีประวัติการทุจริตเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประมูลซื้อรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ ว่า มีการจัดซื้อจัดจ้างมาก่อนที่ตนจะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายก อบจ. เมื่อได้รับคำร้องเรียนว่ามีการสมยอมราคา ตนก็ระงับการจ่ายเงินค่าจัดซื้อจัดจ้างและตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งระหว่างนั้น ผู้ขายได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองและ ปปช. ดังนั้นเมื่อเรื่องเข้าสู่ศาลก็ต้องรอให้คดีความถึงที่สุด และอีกทั้งผลการตรวจสอบของคณะกรรมการที่ อบจ. พบว่าเข้าข่ายการทุจริตจริง 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด และยังอยู่ในกระบวนการ ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการทุจริต แต่ตนรักษาผลประโยชน์ของงบประมาณแผ่นดิน ส่วนกรณีการซื้อรถพยาบาล ตนทำตามมาตรฐานของกรมบัญชีกลาง และ ป.ป.ช. ไม่เรียกสอบพยานหลักฐานไปตั้งแต่ 2 ปีก่อนแล้ว แต่ยังค้างอยู่ใน ป.ป.ช. ส่วนการทำสวนสาธารณะ บริเวณหาดสมิหลา และได้ขอพื้นที่จากกรมธนารักษ์มาใช้เนื่องจากก่อนหน้านี้เป็นสนามกอล์ฟ และตอนนี้ศาลปกครองจำหน่ายคดีออกไปแล้ว 

ส่วนข้อกล่าวหาว่าตนจัดสรรงบประมาณ กระจุกตัว นายนิพนธ์ ยืนยันว่า ได้กระจายงบประมาณครบทั้ง 16 อำเภอ และแต่ละอำเภอมีคณะกรรมการตรวจสอบ ส่วนข้อกล่าวหาว่ามีการอุดหนุนเงินให้กับสโมสรฟุตบอล แต่ให้กับสมาคมฟุตบอลเพื่อเตรียมจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ตามระเบียบของ อบจ. และที่มีการโจมตีว่าเมื่อตนลาออกจากนายก อบจ. จะทำให้เสียงบประมาณในการเลือกตั้งใหม่ แต่ความเป็นจริงคือ ปลัดจังหวัดจะรักษาการแทน จนกว่า กกต. จะประกาศให้มีการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศ การลาออกของตนจึงไม่ทำให้เสียงบประมาณเลือกตั้งใหม่ ซึ่งส่วนตัวไม่ได้หนักใจอะไรกับเรื่องนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการชี้แจงข้อเท็จจริง และเป็นธรรมดาที่ทุกครั้งเมื่อตนจะมีโอกาสได้รับตำแหน่งใหญ่ๆ ก็จะมีการขุดประเด็นเหล่านี้ขึ้นมา ซึ่งหากทำให้ตนเสียหาย ตนจะดำเนินการฟ้องร้องตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์

ทั้งนี้นายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรค กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ข้อร้องเรียนที่ไปยื่นไม่ตรงตามข้อเท็จจริง และไม่มีกรณีทุจริตใดๆ ทั้งสิ้น 

ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า โครงการที่ขอให้ตรวจสอบ ประกอบด้วย  

1.โครงการประมูลรถซื้อรถซ่อมบำรุงทางอเนกประสงค์วงเงิน 52 ล้านบาท ซึ่งศาลได้พิพากษาให้อมจอสงขลาต้องจ่ายเงินทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยตามสัญญาซึ่งเป็นเหตุให้ราชการเสียหายเพราะต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มและกรณีนี้มีการร้องเรียนไปที่ ป.ป.ช.แล้ว

2.โครงการเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นการใช้งบประมาณไม่ถูกต้องเกินกว่าอำนาจหน้าที่ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงิน การฝากเงิน การเก็บรักษาเงินและการตรวจเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทำให้รัฐสูญเสียเงินไปกว่า 34 ล้านบาท เรื่องนี้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน มีมติให้เรียกเงินคืนแล้ว แต่ทาง อบจ.สงขลา ยังไม่คืน อีกทั้งเรื่องนี้ถูกส่งไป ป.ป.ช. แล้ว

นอกจากนี้ในอีก 1-2 วัน นำเรื่องของ 3 ว่าที่รัฐมนตรีจากพรรคร่วมรัฐบาลในภาคอีสาน ที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าและพื้นที่ สปก. ซึ่งศาลมีคำพิพากษาแล้ว มาให้ข้อมูล นายกฯ เพิ่มเติม ทั้งนี้ หาก นายกฯ ไม่ทบทวนและแต่งตั้งคนเหล่านี้มาเป็นรัฐมนตรี จะทำให้สังคมเห็นว่า นายกฯ เป็นบุคคลที่เชื่อถือไม่ได้ ทางที่มีนโยบายปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีต้องมีความโปร่งใส ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล ซึ่งก็ยังมีหลายคนที่มีคุณสมบัติ ความรู้ ความสามารถ

จากนั้นช่วงบ่าย จะเดินทางไปที่กระทรวงกลาโหม เพื่อยื่นหนังสือถึง พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการกำหนดนโยบายการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ เพื่อขอให้สั่งการให้ทหารดำเนินการขุดลอกคูคลองสำคัญในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบเอาผิด ผู้ว่าและรองผู้ว่าฯ ราชการกรุงเทพมหานคร กรณีไม่ใช้อำนาจตามกฎหมายเอาผิดกับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างเขื่อน ค.ส.ล. ริมคลองลาดพร้าว-บางซื่อ และผู้รับเหมาโครงการบ้านมั่นคง ที่โกยดินทิ้งขยะจากการก่อสร้างลงในคลองลาดพร้าว-บางซื่อ เป็นเหตุให้ขัดขวางทางเดินน้ำ และทำให้ลำคลองตื้นเขิน