กลุ่ม "ดีคอม กรุ๊ป" ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าไอทีชื่อดังของไทย ประกาศเตรียมปิดกิจการ หลังมีผลขาดทุนกว่า 100 ล้านบาท โดยจะประกาศเป็นทางการในต้นเดือนหน้า
กลุ่ม "ดีคอม กรุ๊ป" ยักษ์ใหญ่ด้านสินค้าไอทีชื่อดังของไทย ประกาศเตรียมปิดกิจการ หลังมีผลขาดทุนกว่า 100 ล้านบาท โดยจะประกาศเป็นทางการในต้นเดือนหน้า
ขณะนี้มีรายงานข่าวจากวงการคอมพิวเตอร์และไอทีว่า บริษัทดี กรุ๊ป จำกัด หรือเดิมชื่อ ดีคอมพิวเตอร์ ผู้ค้าส่งสินค้าไอทีและชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์รายใหญ่ ประสบปัญหาขาดทุนและเตรียมประกาศเลิกกิจการ โดยได้ปิดสาขาและเลิกจ้างพนักงาน โดยเหลือเฉพาะธุรกิจร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ภายใต้ชื่อ ดี-สปอร์ต
ทำให้ส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าไอทีและลูกค้าเป็นจำนวนมาก เนื่องจาก ดี คอมพิวเตอร์ เป็นผู้จำหน่ายอุปกรณ์ไอทีจำเป็นจำนวนมาก ทั้งโน้ตบุ๊ก ,หน่วยประมวลผลหรือซีพียู , ฮาร์ดดิสก์ , หน่วยความจำ หรือแรม และ อุปกรณ์เครือข่าย ซึ่งการประกาศเลิกกิจการทำให้สินค้าบางประเภท หมดการประกันโดยทันที ทำให้ผู้ผลิตสินค้าต้องเข้ามารับผิดชอบในการให้บริการ เช่น โน้ตบุ๊ก เอซุส ที่ลูกค้าสามารถเคลมได้ ที่ศูนย์บริการ หรือ ซัมซุง ที่สามารถเคลมประกันได้ ผ่านทางบริษัทซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) แต่สินค้าบางอย่างก็หมดประกันไปพร้อมกับการเลิกกิจการของบริษัททันที เนื่องจากไม่มีตัวแทนจำหน่ายที่จะคอยติดต่อกับทางต่างประเทศอีกต่อไป
ด้านนายวิกร วิวิธคุณาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทดี คอมกรุ๊ป จำกัด ยอมรับว่า ขณะนี้บริษัทได้ประกาศหยุดให้บริการ เพื่อตัดสินใจว่าจะดำเนินธุรกิจต่อ หรือ ยกเลิกกิจการ ที่ดำเนินงานมาเป็นเวลา 27 ปี โดยคาดว่าจะสามารถประกาศความชัดเจนได้ประมาณต้นเดือนหน้า
ทั้งนี้ยอมรับว่าที่ผ่านมา ดีคอมกรุ๊ป ประสบกับปัญหาการขาดทุนเป็นหลักร้อยล้านบาท แต่ไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขที่ชัดเจนได้ โดยสาเหตุที่ทำให้บริษัทประสบปัญหาขาดทุนมาจากตลาดมีการเปลี่ยนแปลงจากยุคคอมพิวเตอร์ และโน้ตบุ๊ก ไปสู่ยุคแท็บเลต และสมาร์ทโฟน ซึ่งบริษัทไม่สามารถเข้าไปแข่งขันในตลาดดังกล่าวได้ เนื่องจากตลาดดังกล่าวมีผู้เล่น ทั้งโอเปอเรเตอร์มื���ถือทั้ง 3 ราย ผู้ค้ามาบุญครอง และผู้ค้ารายใหญ่อื่นๆ ที่มีความแข็งแกร่ง ทำให้ผู้ค้าส่งสินค้าไอทีเข้าไปแข่งขันในตลาดดังกล่าวลำบาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ค้าส่งสินค้าไอทีทุกราย
รวมทั้งยังเกิดจากสต๊อกสินค้าจำนวนมาก จากการชะลอตัวของตลาดไอทีปีที่แล้ว รวมทั้งสต๊อกสินค้าในปีนี้ ที่ดีคอมกรุ๊ปแบกรับภาระสต๊อกสินค้าไว้เป็นจำนวนมาก ส่วนธุรกิจอินเตอร์เน็ต คาเฟ่ ภายใต้ชื่อ ดีสปอร์ตนั้น ขณะนี้ยังไม่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ทำให้ยังไม่พร้อมประกาศเปิดตัว แต่ที่ผ่านมาได้ขยายร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ทั้งลงทุนเอง และขายแฟรนไชส์ ไปแล้วรวมทั้งหมดประมาณ 200 แห่งทั่วประเทศ