การบริจาคอวัยวะอาจจะเป็นเรื่องที่ทุกคนยกย่อง ได้บุญได้กุศล เป็นการทำบุญใหญ่ครั้งสุดท้าย ให้ร่างกายได้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นยามที่เราเสียชีวิตไปแล้ว แต่คุณจะรู้สึกอย่างไรหากต้องถูกบังคับให้ต้องบริจาคอวัยวะให้คนอื่นโดยไม่สมัครใจ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะคุณเสียชีวิตไปแล้ว

 

 

เรื่องนี้เกิดกับนักโทษประหารของจีน ตลอดเวลาที่ผ่านมา เมื่อนักโทษในจีนถูกประหารชีวิต รัฐบาลจะนำอวัยวะของนักโทษเหล่านั้นเท่าที่สามารถบริจาคได้ ส่งเข้าธนาคารอวัยวะของรัฐ เพื่อนำไปปลูกถ่ายให้แก่ผู้ป่วยทั่วประเทศตามลำดับและความจำเป็น โดยอวัยวะจากนักโทษประหาร คิดเป็นจำนวนถึง 2 ใน 3 ของบรรดาอวัยวะที่ถูกบริจาคให้แก่ผู้ป่วยชาวจีนเลยทีเดียว

 

 

แต่ในช่วงที่รัฐบาลจีนพยายามปรับโฉมให้ทันสมัยและคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนมากขึ้นเช่นตอนนี้ รัฐบาลได้ประกาศว่าจะออกกฎเกณฑ์ด้านการบริจาคอวัยวะใหม่ โดยรับเฉพาะอวัยวะจากผู้บริจาคที่เป็นพลเมืองทั่วไปเท่านั้น ไม่เอาอวัยวะจากนักโทษประหารที่ไม่ได้สมัครใจบริจาคอวัยวะอีกต่อไป โดยกฎใหม่นี้จะเริ่มใช้ในเดือนพฤศจิกายนนี้

 

 

ทางการจีนยังบอกอีกด้วยว่าการปรับปรุงครั้งนี้ เป็นเพราะจีนเล็งเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องพัฒนาระบบการรับบริจาคอวัยวะให้ทันสมัยและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

 

 

ถือเป็นพัฒนาการครั้งใหญ่ เพราะอันที่จริง จีนเพิ่งจะยอมรับว่าใช้อวัยวะจากนักโทษปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง โดยก่อนหน้านี้มีการรายงานเรื่องนี้ แต่รัฐบาลจีนปฏิเสธเสียงแข็งมาโดยตลอด 

 

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือเมื่อขาดอวัยวะจากนักโทษ ซึ่งเป็นแหล่งอวัยวะใหญ่ที่สุด ผู้ป่วยชาวจีนอาจจะต้องรอนานขึ้นอีกมากกว่าจะได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลควรทำตั้งแต่ตอนนี้ ก็คือการรณรงค์ให้ประชาชนหันมาให้ความสำคัญกับการบริจาคอวัยวะะมากขึ้น สร้างค่านิยมใหม่เกี่ยวกับการทำบุญด้วยวิธีนี้ ซึ่งน่าจะทำให้ปริมาณอวัยวะที่จะนำมาให้ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมาทดแทนอวัยวะจากนักโทษได้