นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.ฝ่ายค้าน ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเรื่องการตราพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ส่งเสริมการพัฒนาและคุ้มครองสถาบันครอบครัว 2562 ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 172 วรรคหนึ่งหรือไม่ ว่า เป็นเรื่องที่ตนต้องไปชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อ โดยจะให้ข้อมูลตามจริง แล้วจะมีการพิจารณาตัดสินใจ 60 วัน
ทั้งนี้เหตุที่ต้องมีการเสนอออกพ.ร.ก.ฯ แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะจังหวะไม่ดี คือ
1. เป็นช่วงรอยต่อของรัฐบาลใหม่กับรัฐบาลเก่า
2. ช่วงรอยต่อของสภาเก่า และสภาใหม่ ซึ่งมีผลมากเพราะมีกฎหมายออกมาอีกหลายฉบับ เช่น วิธีการแก้ เกณฑ์การแก้ไขกฎหมาย หรือเสนอกฎหมายที่ไปเพิ่มขึ้นตอนอีกเยอะที่ทำให้ดำเนินการไม่ได้
3. เรื่องรอยต่อระหว่างงบประมาณเก่า และงบประมาณใหม่ โดยทั้ง 3 เรื่องนี้มาพร้อมกันพอดี ทำให้การแก้ปัญหาต่างๆ ไม่สามารถทำได้ พอทำไม่ได้ก็ส่งผลถึงความพร้อมหรือไม่พร้อมของระบบ ของเจ้าหน้าที่ ดังนั้นการปรับแก้พ.ร.บ.ก็ต้องทบทวนว่ากฎหมายที่ออกกมาใหม่นั้นมีอะไรที่ต้องปรับปรุงให้การปฏิบัติงานขึ้น สะดวกขึ้น ประชาชนได้ประโยชน์มากขึ้น นอกจากนี้ก็ต้องเร่งทำโครงสร้างองค์กร และระบบการทำงานเรื่องนี้ให้สอดคล้องกับกฎหมายใหม่ที่ออกมา
“ผมว่าคนที่ออกกฎหมายนี้มาขาดความเข้าใจในเชิงลึกของระบบสังคมไทยและระบบราชการ ทำให้มีปัญหา”
ส่วนข้อห่วงใยชองภาคประชาชนห่วงและเคยทักท้วงกฎหมายดังกล่าวว่าตัดตำรวจและภาคประชาชนออกจากระบบเรื่องการคุมครองป้องกันความรุนแรงในครอบครัว รวมถึงเรื่องของการเยียวยาเหยื่อที่ไม่มีความเข้มแข็งนั้น ตนคงตอบแทนคนร่างกฎหมายตัวนี้ไม่ได้ เพราtมาทีหลัง แต่จะนำเอาข้อท้วงติงของภาคประชาชนมาดูว่ามีอะไรที่เรามาสามารถทำได้ และเติมให้เต็ม