เป็นเรื่องทอล์คออฟเดอะทาวน์ของวันที่ดังไปทั่วโลก สำหรับ 2 นักแบดมินตันไทย "เอ" มณีพงศ์ จงจิตร และ "อาร์ท" บดินทร์ อิสสระ ที่ทะเลาะวิวาทกันในสนามการแข่งขันแบดมินตัน "แคนาดา โอเพ่น 2013" ที่ประเทศแคนาดา ขณะที่ คุณเจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย เตรียมพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับบทลงโทษ หลังทั้งคู่กลับมาถึงเมืองไทยวันที่ 23 กรกฎาคม 

 

 

การแข่งขันแบดมินตันกรังด์ปรีซ์ รายการ โยเน็กซ์ แคนาดา โอเพ่น กรังด์ปรีซ์ 2013 ชิงเงินรางวัล 50,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือประมาณ 1,500,000 บาท เมื่อ วันที่ 21 กรกฎาคมตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ประเทศแคนาดา 

 

 

ประเภทชายคู่ รอบชิงชนะเลิศ นักกีฬาไทยชิงกันเองระหว่าง "เอ" มณีพงศ์ จงจิตร-นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร คู่มือวางอันดับ 2 ของ รายการ พบกับ "อาร์ท" บดินทร์ อิสสระ-ภควัฒน์ วิไลลักษณ์ มือ 8 ของรายการ ซึ่งเป็นการเจอกันเองหลังจากทั้งมณีพงศ์ และบดินทร์ ที่สามารถผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันโอลิมปิก 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อปีที่แล้ว 

 

 

โดยในเกมนัดแรก คู่ของ มณีพงศ์-นิพิฐพนธ์ ชนะ 21-12 จากนั้นระหว่างเปลี่ยนแดน มณีพงศ์ และ บดินทร์ อดีตคู่หูเก่าได้ใช้คำพูดยั่วยุใส่กัน จนทำให้ทั้งสอง ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ มีเรื่องทะเลาะกัน ซึ่งตามภาพวีดีโอ บดินทร์ วิ่งไล่ต่อย มณีพงศ์ ที่นอนอยู่กับพื้น ทำให้กรรมการ ยุติการแข่งขันและตัดสินให้คู่ของ มณีพงศ์-นิพิฐพนธ์ ชนะและคว้าแชมป์ไปได้ในที่สุด 

 

 

ศาสตราจารย์เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย เปิดใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องน่าเสียใจและเสียหายกับประเทศชาติอย่างมาก ประเทศ ผมอยู่ในวงการแบดมินตันมา 58 ปี ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องที่แย่มาก อย่างแย่ที่สุดก็ท้ากันในสนาม และไปต่อยกันนอกสนาม แต่นี่ชกกันในสนามคนเห็นเหตุการณ์กันทั่วโลก 

 

 

ซึ่งทางฝ่ายจัดการแข่งขันได้ตัดสินไปแล้ว โดยดูคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด คู่มณีพงศ์ โดนทำร้าย จนล้ม ทำให้ฝ่ายจัดการแข่งขันตัดสินให้ มณีพงศ์ ได้แชมป์ โดยเกมแรก ชนะ 21-12 และเกม 2 ปรับให้คู่บดินทร์เป็นฝ่ายแพ้ เพราะอย่างน้อยที่สุด ฝรั่งที่ควบคุมการแข่งขันและมีอำนาจการตัดสินได้ตัดสินใจไปเองโดยดูตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้โยนไปให้สหพันธ์แบดมินตันนานาชาติ ตัดสิน ไม่งั้น จะยาวไปรอการตัดสินถึงเดือนพฤศจิกายนในการประชุม หรือโยนกลับมาให้สมาคมแบดมินตันไทยตัดสิน 

 

 

ส่วนของทางสมาคมฯ ก็จะมีการพิจารณาบทลงโทษกันต่อไป ในวันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคมนี้ จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ เป็นกรณีพิเศษ เพื่อวินิจฉัยว่าจะตัดสินอย่างไร 

 

 

สำหรับการลงโทษในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่สมาคมฯ ช่วงบ่ายๆ ซึ่งนอกจากทางสมาคมฯ จะต้องมีการประชุมเพื่อรับฟังข้อมูลและการชี้แจงจากทุกฝ่ายแล้ว คงต้องรอดูทางสหพันธ์แบดมินตันนานาชาติด้วยว่า จะมีการพิจารณาบทลงโทษในเรื่องนี้หรือไม่อย่างไร 

 

 

เรื่องที่เป็นห่วงมากที่สุดคือไม่แน่ใจว่าทาง สหพันธ์แบดมินตันนานาชาติหรือบีดับเบิลยูเอฟ ที่ทราบเรื่องนี้แล้ว อาจเข้ามาพิจารณาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ย่อมหมายความว่านักกีฬาไทยทั้งคู่อาจจะโดนตัดออกจากรายชื่อนักกีฬาของสหพันธ์ฯ ไปตลอดชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะเป็นปัญหาภายในของนักกีฬาไทยเองมากกว่า 

 

 

ด้านมณีพงศ์ จงจิตร กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บดินทร์ อิสระเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยถามตนว่าจะตะโกนสะใจทำไม และได้แจกของลับไปอีกด้วย ทำให้เกิดอารมณ์ยั่วยุกันไปมา ก่อนที่เกิดเหตุการณ์จะเกิดขึ้นตามคลิปที่ได้เห็น 

 

 

ขณะที่ บดินทร์ อิสระ เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเนื่องจากช่วงระหว่างแข่งพลาดโดนปลายแร็กเก็ตฟาดจนหูฉีก ทำให้รู้สึกโมโหจนขาดสติเลยเข้าไปชกต่อยทำร้ายร่างกายอีกฝ่าย เรื่องที่เกิดขึ้น ผมขอโทษ ผมขอรับผิดแต่ผู้เดียว ที่ทำให้ประเทศไทยต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงแบบนี้ 

 

 

อย่างไรก็ตาม ทีมแบดมินตันไทยจะเดินทางกลับมาถึงไทยในวันที่ 23 กรกฎาคม เชื่อว่ากองทัพสื่อมวลชนต้องฟังคำชี้แจงจากปากเจ้าตัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวมถึงอนาคตของการเป็นนักกีฬาแบดมินตันไทย