ความแรงของซีรีย์ 'ฮอร์โมนวัยว้าวุ่น' ของค่าย GTH ที่ถูกกล่าวถึงทั้งจำนวนผู้ชมทางทีวีดาวเทียมและในโลกสังคมออนไลน์เป็นอย่างมาก รวมทั้ง ส่งผลต่อเรตติ้งทีวีดาวเทียมของช่อง GMM ONE อีกด้วย ปรากฏการณ์นี้มีผลอย่างไรในทางสังคมและธุรกิจ 

 

เสียงสะท้อนของวัยรุ่นถึงความนิยมของซีรีย์ "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" จากค่ายหนังอารมณ์ดีจีทีเอช ที่ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม GMM ONE ในเครือจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ ที่สามารถนำเสอนเรื่องราวของชีวิตวัยรุ่นในยุคปัจจุบันที่ตรงใจวัยรุ่น และผู้ใหญ่ดูแล้วต้องอึ้ง ชนิดที่สถานีโทรทัศน์แบบฟรีทีวีไม่สามารถนำเสนอได้ กลายเป็นกระแส Talk Of the Town ทั้งจำนวนผู้ชมใน youtube ที่ในแต่ละตอนสูงนับล้านวิว ไม่นับรวมช่องทางแบบ Multi-Screen ทั้งมือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ รวมทั้งการกล่าวถึงใน Social Network ย่อมสะท้อนถึงความแรงของซีรีย์นี่ได้เป็นอย่างดี

 

แม้ซีรีย์ 'ฮอร์โมนวัยว้าวุ่น' จะมาแรง จนทำให้มีกระแสข่าวว่า คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.อาจจะตรวจสอบเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและงดออกอากาศ จนในที่สุด กสทช. ยืนยันว่า ยังไม่ได้ติดตามชมซีรีย์นี้ และยังไม่มีการตรวจสอบเนื้อหาหากยังไม่มีการร้องเรียนเข้ามา แต่เรตติ้งของช่อง GMM ONE มีเรตติ้งคนดูเพิ่มขึ้นถึง 70% โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 10-19 ปี เพิ่มขึ้นถึง 267% รวมทั้งกลุ่มอายุ 40-49 ปี ที่เพิ่มขึ้นถึง 132% เรียกว่าเป็นการแจ้งเกิดให้กับช่องทีวีดาวเทียม GMM ONE ได้

 

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เคยมีซีรีย์เป็นต่อขั้นเทพ โดยการสร้างและผลิตเฉพาะทาง GMM ONE รวมทั้ง Club Friday The series ที่หยิบยกเรื่องความรักจากรายการวิทยุกรีนเวฟ มาผลิตเป็นละครซีรีย์ โดยเฉพาะความรักแบบชายรักชาย ที่มีโอ-อนุชิต และ บอม KPN ก็ประสบความสำเร็จ และถูกพูดถึงในโลก Social Network เป็นอย่างมาก

 

ซึ่ง GMM ONE เตรียมซีรีย์อีกหลายเรื่องออกอากาศต่อเนื่องนับจากนี้ อาทิ จีทีเอช ไซด์ สตอร์รี่ ที่รวมภาพยนตร์ 8 เรื่องดังของจีทีเอชในรูปแบบซีรีย์ , เอทีเอ็ม 2 คู่เวอร์ เออเร่อ เออรัก และซุปตาร์ดวงดาว

 

ปรากฏการณ์ ซีรีย์ 'ฮอร์โมนวัยว้าวุ่น' สะท้อนให้เห็นว่า การแข่งขันด้านเนื้อหารายการ หรือ Content ได้เกิดขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่สถานีโทรทัศน์แบบฟรีทีวีเดิม แต่นี่คือการเตรียมพร้อมของผู้ผลิตรายการ หรือ เจ้าของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ก่อนที่จะมีการประมูลทีวีดิจิตอลที่กำลังจะเกิดขึ้นในปลายปีนี้

 

เพราะสามารถต่อยอดความสำเร็จของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม มาสู่ทีวีดิจิทัล ด้วยคอนเทนต์และฐานผู้ชมที่มีอยู่แล้ว จึงนับเป็นความท้าทายของอุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทยนับจากนี้ ว่าหากคอนเมนต์ที่ดี ไม่ว่าจะออกอากาศช่องทางใด ก็สามารถประสบความสำเร็จได้ และฟรีทีวีเดิมกำลังถูกท้าทายจากทีวีดาวเทียมที่เตรียมจะผันตัวเป็นทีวีดิจิทัลในอนาคตอันใกล้นี้รวมทั้งเหล่าบรรดาเอเจนซี่และเจ้าของสินค้า ที่จะต้องเลือกการโฆษณาทางโทรทัศน์ที่หลากหลายและตรงกลุ่มมากขึ้น จากจำนวนช่องและความหลากหลายที่มีมากขึ้น