ไม่พบผลการค้นหา
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณี พิธีกรรายการคนค้นฅน โพสต์เฟซบุ๊กพบสารตกค้างในข้าว 3 ยี่ห้อดัง ระบุเป็นการสร้างจากผู้ไม่หวังดี ยันข้าวไทยมีคุณภาพ
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณี พิธีกรรายการคนค้นฅน โพสต์เฟซบุ๊กพบสารตกค้างในข้าว 3 ยี่ห้อดัง ระบุเป็นการสร้างจากผู้ไม่หวังดี ยันข้าวไทยมีคุณภาพ
 
มติชนออนไลน์ รายงานว่า นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้จัดรายการและพิธีกรรายการ "คนค้นฅน" ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กระบุว่า โรงสีทรัพย์อนันต์ โรงสีไฟวิญญูยโสธรและโรงสีทรัพย์สิรินทรในภาคอีสาน เป็นโรงสีของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย พบสารตกค้างเป็นสารที่ไม่สามารถละลายในน้ำได้ หนูตายใน 5 นาที พร้อมห้ามซื้อข้าวหอมปทุมธานีทุกยี่ห้อ ซึ่งถูกจำหน่ายออกในนาม "ข้าวหอมปทุมธานี" และสต๊อกต่อไปคือข้าวเสาไห้ "ยี่ห้อเบญจรงค์" ห้ามเด็ดขาด "ข้าวตราฉัตร" เพราะเป็นสต๊อกจากต้นปีที่แล้วนำมาจัดจำหน่ายว่า ตนคิดว่าเป็นการสร้างข่าวของผู้ไม่หวังดี เป็นเรื่องที่ทำลายระบบข้าวสาร การค้าและประเทศชาติ หากใครมีหลักฐานก็ควรออกมาระบุว่า พื้นที่ใดยี่ห้ออะไร ก็จะเข้าไปตรวจสอบ ไม่ใช่แค่มีปัญหาเฉพาะไม่ถึง 1% จะทำให้ที่เหลือเกือบ 100% เสียหาย ยอมรับว่ากระแสข่าวอาจมีผลต่อการทำลายการค้าและการระบายข้าวรัฐ ซึ่งเรื่องคุณภาพข้าวรัฐก็เข้มงวดและตรวจสอบตลอด หากโรงสีทำผิด ก็ต้องลงโทษ รวมถึงได้สั่งการให้ตรวจสอบข้าวถุงที่รัฐได้อนุมัติให้จัดทำด้วย เบื้องต้นยืนยันว่า ข้าวไทยมีคุณภาพ ที่เป็นปัญหาอาจมีเพียงบางจุดเท่านั้น
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้นายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้จัดรายการ พิธีกร นักแสดง ผู้ดำเนินรายการ คนค้นฅน และผู้บริหารในบริษัท ทีวีบูรพา ได้โพสต์ข้อความผ่านหน้าเฟซบุ๊กตัวเอง Suttipong Thamawuit โดยระบุถึงโรงสีข้าวที่กำลังเตรียมส่งข้าวออกจำหน่าย ที่มาจากโรงสีรายใหญ่ในภาคอีสาน และเป็นโรงงานของ ส.ส.เพื่อไทย พร้อมระบุว่ามีสารพิษตกค้าง และสารดังกล่าวไม่สามารถละลายในน้ำได้ แถมทำให้หนูตายใน 5 นาที นอกจากนี้ยังระบุถึงยี่ห้อข้าวที่ไม่ควรซื้อมารับประทานอีกด้วย จากนั้น นายสุทธิพงษ์ ได้ลบข้อความดังกล่าวทิ้งไป จนคนในโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์กันว่า อาจถูกบล๊อคเพจหรือไม่
 
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (10ก.ค.2556) นายสุทธิพงษ์ ได้เปิดเฟซบุ๊กอีกครั้ง พร้อมระบุข้อความว่า...
"ที่ผ่านมา ผมปลีกตัวอยู่เงียบ ๆ ทำหน้าที่ของผมไป ภายใต้ความเป็นไปของโลกที่ตระหนักดีว่าทัดทานไม่ได้ แตะต้องไม่ได้ ถ้าไม่อยากเปลืองตัว ทั้ง ๆ ที่รู้สึกว่าวังเวงเหลือเกิน แผ่นดินนี้ สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกวังเวง ไม่ใช่คลิปสนทนาที่บอกว่าตัดต่อ ไม่ใช่ผลของโครงการรับจำนำข้าวที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันทำให้คนมีดวงตาเห็นธรรมเหมือนกัน ไม่ใช่ความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างกันต่อตัวท่านนายก ไปจนกระทั่งถึงการที่มีรัฐมนตรีมองว่าประชาชนเป็นขยะ ผมใช้โทรศัพท์เอไอเอสมาหลายปี ไม่เคยคิดเปลี่ยน รู้สึกสงสารท่านนายกอย่างไรก็ไม่เคยเปลี่ยน แต่ก็ไม่สามารถที่จะชื่นชมการแชร์ความคิดเห็นของผู้อื่น ไม่ได้หมายความว่าเราคิดเหมือนกันทุกอย่าง การไม่พูดถึงก็ไม่ได้หมายความว่าเห็นต่างไปเสียทั้งหมด คงถึงเวลาที่ต้องประกาศจุดยืนให้ทราบโดยทั่วกันว่า ผมเลือกข้างแล้วชัดเจน ว่าผมอยู่ข้างความถูกต้อง ถามว่าเอาอะไรมาวัดว่าถูกหรือผิด ตอบว่าเอาสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอน ซึ่งความมืดบอดต่อสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนนี่เอง ที่ทำให้ผมรู้สึกวังเวง"
 
 
"ผมคิดว่าผมควรพูดอะไรต่ออีกเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องข้าว(ความเป็นห่วงที่มีต่อความปลอดภัยของคนกินข้าว)เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องพูดเอามันส์ ไม่ใช่แค่เรื่องมาด่าทอเพื่อความสะใจ ผมคิดว่าเป็นเรื่องง่ายมากถ้าบริสุทธิใจ ไม่ต้องรอสื่อไปแอบตรวจสอบหรอกครับ ข้าวทุกยี่ห้อและโรงสีทั้งหลายที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ถูกกล่าวหาก็ตาม แย่งกันเลยครับ แย่งกันเปิดโรงสีให้เจ้าหน้าที่และสื่อเข้าไปตรวจอย่างอิสระ ทั้งตอนที่เป็นข้าวเปลือกและตอนที่สีบรรจุถุง ตรวจกันให้หนำใจเพราะข้าวบริสุทธิ์และปลอดภัยอยู่แล้วจะไปกลัวอะไร สื่อยินดีไปทำข่าวให้ไม่ต้องเสียเงินไปทำโฆษณา ผมว่าตราเปิดเผย จริงใจ บริสุทธิ์ใจ ตรงไปตรงมานี่ การันตีคุณภาพให้ดียิ่งกว่าตรารับรองมาตรฐานไหนๆทั้งนั้น ทำเลยครับ"
 
พีธีกรชื่อดังยังระบุอีกว่า "ทุกครั้งที่ผมไหว้พระ สวดแผ่เมตตาเชื่อไหมครับ ผมนึกถึงท่านนายก ท่านอดีตนายก นักการเมืองทั้งหลาย เพื่อนมนุษย์ผู้ที่หลงอยู่ในกิเลสตัณหา อวิชาและมิจฉาทิฐิทั้งหลาย เสมอกับพ่อแม่ ครูอาจารย์ ครอบครัว กัลยาณมิตรและเจ้ากรรมนายเวร เพราะผมถูกสอนไม่ให้เกลียดชังเพื่อนมนุษย์ ถึงไม่รักแต่สามารถปรารถนาดี
 
เช่นอยากให้ความเห็นแก่ตัวเขาลดลง อยากเห็นเขามีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์มากขึ้น อยากให้เขาน้อมจิตใจเข้าหาธรรมะ ท่านอาจารย์สอนผมเรื่องกุศลจิตอย่างนี้ ซึ่งผมเชื่อและปฏิบัติตามหมดหัวใจ"
 
ด้านนายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตข้าวตราฉัตร ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี กล่าวถึงกรณีนายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้จัดรายการ พิธีกร นักแสดง ผู้ดำเนินรายการคนค้นฅน และผู้บริหารในบริษัททีวีบูรพา ได้โพสต์ข้อความผ่านหน้าเฟซบุ๊กตัวเอง Suttipong Thamawuit โดยระบุถึงโรงสีข้าวที่กำลังเตรียมส่งข้าวออกจำหน่าย ที่มาจากโรงสีรายใหญ่ในภาคอีสาน และเป็นโรงงานของ ส.ส.เพื่อไทย พร้อมระบุว่ามีสารพิษตกค้าง และสารดังกล่าวไม่สามารถละลายในน้ำ แถมทำให้หนูตายใน 5 นาที
 
นอกจากนี้ยังระบุถึงยี่ห้อข้าวที่ไม่ควรซื้อมารับประทานคือ ตราฉัตร ว่า รู้สึกเสียใจเพราะเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง มีผลต่อภาพลักษณ์สินค้า ทำให้แบรนด์เสียหาย ก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องกระบวนการผลิตข้าวตราฉัตรที่มีคุณภาพได้มาตรฐานไปแล้ว แต่ไม่ได้รับการแก้ไขจากทางนายสุทธิพงษ์แต่อย่างใด
 
ขอบคุณข้อมูลจาก มติชนออนไลน์
ขอบคุณภาพจาก MCOT
Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog