สำนักข่าว BBC รายงานว่าการตกของเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เที่ยวบิน PS752 สายการบินยูเครน อินเตอร์เนชันเนล มุ่งหน้าไปยังกรุงเคียฟของ ประเทศยูเครนเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งลำ 176 ราย เกิดขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งครั้งใหญ่ระหว่างสหรัฐฯและอิหร่าน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานใดที่แสดงให้เห็นว่า เหตุเครื่องบินตก มีความเกี่ยวข้องกับ ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและสหรัฐ
โดยปกติแล้วคณะกรรมการความปลอดภัยทางการคมนาคมแห่งชาติ หรือ US National Transportation Safety Board จะมีหน้าที่โดยตรงในการสืบสวนสาเหตุของการตกของเครื่องบินของสายการบินที่ผลิตโดยบริษัทสัญชาติอเมริกัน โดยต้องได้รับอนุญาตจากประเทศที่เกิดเหตุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: เครื่องบินโดยสารของยูเครนตก พร้อมผู้โดยสาร 180 คน ในอิหร่าน
อย่างไรก็ตาม การสืบสวนเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้อาจไม่เหมือนที่ผ่านมา เพราะ อาลี อาเบดซาเดห์ ผู้อำนายการองค์การการบินพลเรือนอิหร่าน หรือ Civil Aviation Organisation (CAO) กล่าวกับสำนักข่าว Mehr ของอิหร่านว่า ทางการอิหร่านประกาศยืนยันจะไม่ส่ง 'กล่องดำ' ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญและอุปกรณ์บันทึกเสียงและข้อมมูลของการตกของเครื่องบินให้กับสหรัฐฯเพื่อทำการสืบสวน
อาเบดซาเดห์ยังย้ำด้วยว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้จะถูกสืบสวนโดยประเทศอิหร่าน ซึ่งจะมีการอนุญาตให้ยูเครนสามารถเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ได้ และตามกฎการบินนานาชาติ อิหร่านมีสิทธิ์ที่จะดำเนินการสืบสวนหาสาเหตุได้ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตามอาเบดซาเดห์ระบุว่ายังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าประเทศใดจะเป็นผู้วอเคราะห์ข้อมูลจากกล่องดำ
ด้านบริษัทโบอิ้งชี้ว่า ผู้เชี่ยวชาญของโบอิงพร้อมเสมอที่จะให้ความช่วยเหลือในการสืบสวน ขณะที่นายจัสติน ทรูโ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ก็ออกมาชี้แจงว่าทางแคนาดาต้องการที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสืบสวนนี้ และพร้อมส่งทีมเทคนิคผู้เชี่ยวชาญไปช่วยเหลือเช่นกัน เนื่องจากผู้โดยสารส่วนใหญ่ที่อยู่บนเคลื่อนบินลำดังกล่าวเป็นชาวแคนาดาและอิหร่าน
ทั้งนี้ สถานเอกอักคราชทูตยูเครนประจำกรุงเตหะรานของอิหร่านได้ออกแถลงการณ์หลังเกิดเหตุว่าสาเหตุของการตกของเครื่องบินคือเครื่องยนต์ขัดข้อง แต่ก็ได้ลบแถลงการณ์นี้ออกไป เพราะเห็นว่ายังเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการสรุปอย่างเป็นทางการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :