วันที่ 9 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์ มีคำสั่งปลด มาร์ก เอสเปอร์ พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม โดยมีผลทันที และได้แต่งตั้ง คริสโตเฟอร์ มิลเลอร์ ผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติ เข้ารักษาการแทน โดย ปธน.ทรัมป์ได้ระบุ ขอบคุณเอสเปอร์สำหรับการปฏิบัติหน้าที่รมว.กลาโหม ตลอดเวลาที่ผ่านมา
แม้จะไม่ได้ระบุถึงเหตุผลการเอสเปอร์ออกจากตำแหน่ง แต่คาดว่ามาจากการขัดแย้งในหลายประเด็น โดยเฉพาะท่าทีของผู้นำสหรัฐ ที่ไม่แยแสต่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) รวมถึงที่ชัดเจนคือกรณีการสังหารจอร์จ ฟลอยด์ ซึ่งกลายเป็นชนวนเหตุประท้วงใหญ่ทั่วสหรัฐฯ ซึ่งทรัมป์ต้องการใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามผู้ชุมนุม แต่เอสเปอร์มีท่าทีปฏิเสธ
ในสมัยการดำรงตำแหน่งของปธน.ทรัมป์ เขาได้สั่งปลด รมว.กลาโหม แล้วสองคน ก่อนหน้านั้นคือ พล.อ.เจมส์ แมตทิส ซึ่งดำรงตำแหน่งระหว่าง 2560 ถึง 2561 โดยครั้งนั้น แมตทิส เป็นผู้ยื่นลาออกเอง เนื่องจากมีความเห็นไม่ลงรอยกับทรัมปในหลายประเด็น
การสั่งปลดรัฐมนตรีกลาโหม เพียงไม่นานหลังปธน.ทรัมป์พ่ายแพ้การเลือกตั้งสมัยสอง อย่างไรก็ดี ตามธรรมเนียมปกติ หลัง รมว.กลาโหมลาออก จะต้องมีการเสนอชื่อบุคคลที่จะเป็น รมว.กลาโหมคนต่อไปทันที เนื่องจากเป็นตำแหน่งสำคัญในสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยเชื่อว่าวุฒิสภาจะยังไม่รับรองชื่อ รมว.กลาโหมคนใหม่ จนกว่าโจ ไบเดน จะสาบานตนเป็นผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ในเดือนมกราคม
อนึึ่ง ก่อนหน้านี้ช่วงเลือกตั้งสหรัฐฯ มีกระแสข่าวรายงานอ้างบุคคลใกลชิด มาร์ก เอสเปอร์ ว่า เขาเตรียมยื่นลาออกจากตำแหน่งรมว.กลาโหม แต่ยังไม่มีความชัดเจน กระทั่งปธน.ทรัมป์เปิดเผยว่า มีคำสั่งปลดดังกล่าว