ทางการจีนรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ หรือโควิด-19 เพิ่มขึ้น 5,090 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ที่ 63,851 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 121 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดในจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ที่ 1,380 ราย

นอกจากนี้ ทางการจีนยังเปิดเผยเป็นครั้งแรกว่า มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งหมด 1,716 คน คิดเป็นร้อยละ 3.8 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในจีนแผ่นดินใหญ่ ในจำนวนนี้ เป็นบุคลากรที่มาจากมณฑลหูเป่ย 1,502 คน มาจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นต้นตอการระบาดถึง 1,102 คน และมีบุคคลากรทางการแพทย์เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19

เบนจามิน โคว์ลิง อาจารย์ด้านระบาดวิทยาของมหาวิทยาลัยฮ่องกง กล่าวว่า การที่บุคคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อถือเป็นเรื่องน่ากังวล เจ้าหน้าที่ด่้านสาธารณสุขต้องเผชิญกับความท้าทายในการดูแลผู้ป่วยจำนวนมากในเมืองอู่ฮั่น

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายคนในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้ รู้สึกเหนื่อยล้า เนื่องจากต้องตรวจและรักษาผู้ติดเชื้อรายใหม่หลายพันคนต่อสัปดาห์ แต่เจ้าหน้าที่ก็มีไม่เพียงพอกับจำนวนผู้ที่เดินทางไปรักษา เช่น แพทย์คนหนึ่งต้องรองรับคนไข้ 400 คนภายใน 8 ชั่วโมง

เจ้าหน้าที่หลายคนต้องใส่ชุดป้องกัน ต้องใส่ผ้าอ้อม ลดปริมาณการดื่มน้ำ และลดการเข้าห้องน้ำลง เพื่อหลีกเลี่ยงการถอดอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ทำให้ใช้งานได้นานขึ้น บางคนต้องใส่ชุดเดิมนาน 6-9 ชั่วโมง ทั้งที่ตามหลักแล้วควรจะต้องเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อยๆ ไม่ควรเกินครั้งละ 4 ชั่วโมงในวอร์ดสำหรับการกักตัว

ด้านทีมนักวิจัยจาก China National Biotec Group พบว่า เลือดของผู้ป่วยที่หายจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มีแอนติบอดีที่ฆ่าไวรัสตัวนี้อยู่ในพลาสมา และจากการทดลองพบว่า สามารถนำดึงแอนติบอดีมาเป็นเซรุ่มฆ่าไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทีมนักวิจัยเตรียมจะนำพลาสมานี้ใช้ในการรักษาต่อไป หลังจากมีการทดสอบความปลอดภัยทางชีวภาพและการทำลายไวรัสแล้ว

ที่มา : SCMP, New York Times, Channel News Asia