ไม่พบผลการค้นหา
ศบค.ยกระดับมาตรการคุมโควิด-19 ปรับ 3 โซนพื้นที่สถานการณ์ เข้ม กทม.และ 5 จังหวัด กทม.-5 จังหวัด ห้ามนั่งทานในร้านให้ซื้อกลับเท่านั้น พร้อมขอความร่วมมืองดเดินทางออกนอกพื้นที่ เตรียมปรับโทษปรับไม่สวมแมสก์ เน้นไม่สร้างภาระประชาชน

เวลา 16.00 น. วันที่ 29 เม.ย. 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค.เป็นประธาน โดยที่ประชุมเห็นชอบการยกระดับ 3 พื้นที่ควบคุมโรคโควิด-19 เริ่มเวลา 00.01 น. ของวันที่ 1 พ.ค.2564 ประกอบด้วย

พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 6 จังหวัด

กรุงเทพฯ ชลบุรี เชียงใหม่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ

มีมาตรการ : ห้ามรับประทานอาหารในร้าน ซื้อกลับได้ไม่เกิน 21.00 น. ห้ามกิจกรรมรวมกลุ่มมากกว่า 20 คน , ร้านสะดวกซื้อตลาดโต้รุ่ง เปิดบริการตั้งแต่เวลา 04.00 น. ถึง 23.00 น. ,ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ

ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการตามปกติ ไม่เกิน 21.00 น. ,สถานศึกษาทุกระดับ ห้ามใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ,ปิดสถานที่เสี่ยง หรือสถานที่ที่มีกิจกรรมเสี่ยง ยกเว้นสถานที่เล่นกีฬากลางแจ้งเปิดได้ไม่เกิน 3 ทุ่ม แข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชม , ขอให้งดเดินทางออกนอกพื้นที่

ศบค..JPGศบค 1 -A92A-4093-A3D1-1C4E49A703FD.pngศบค 2 849C70CC-7D7A-4250-907D-7830CE0DEFF6.pngศบค 3 5FF08689-5FBC-4C99-844A-B339139A5375.png

พื้นที่ควบคุมสูงสุด 45 จังหวัด

กาญจนบุรี กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยภูมิ เชียงราย ตาก ตรัง นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นราธิวาส น่าน ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ศรีสะเกษ ภูเก็ต มหาสารคาม ยะลา ร้อยเอ็ด ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน สระแก้ว สงขลา สมุทรสาคร สระบุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี อ่างทอง อุดรธานี อุบลราชธานี

มาตรการ : รับประทานอาหารที่ร้านไม่เกิน 21.00 น. ซื้อกลับได้ไม่เกิน 23.00 น. (งดดื่มสุราในร้าน) , ห้ามกิจกรรมรวมกลุ่มมากว่า 50 คน , ร้านสะดวกซื้อตลาดโต้รุ่ง เปิดบริการตั้งแต่เวลา 04.00 น. ถึง 23.00 น. , ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ , ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการตามปกติ ไม่เกิน 21.00 น. , สถานศึกษาทุกระดับ ห้ามใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก , ส่วนสถานที่เสี่ยง หรือสถานที่ที่มีกิจกรรมเสี่ยง ให้เปิดบริการตามข้อกำหนด สถานที่เล่นกีฬา เปิดได้ไม่เกิน 3 ทุ่ม แข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชมผู้เล่น

ศบค ประยุทธ์ 0893C509-B165-45D0-87AA-21DB6A38B7E7.jpegประยุทธ์ อนุพงษ์ AB3EEA39-600F-4DC8-9EBA-1B25997C1653.jpeg

พื้นที่ควบคุม 26 จังหวัด

กระบี่ กาฬสินธุ์ ชัยนาท ชุมพร ตราด นครนายก นครพนม หนองคาย บึงกาฬ บุรีรัมย์ พังงา พะเยา แพร่ มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร เลย สกลนคร สตูล สมุทรสงคราม สิงห์บุรี สุรินทร์ หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี

มีมาตรการ : รับประทานอาหารในร้านไม่เกิน 23.00 น. (งดดื่มสุราในร้าน) , ห้ามกิจกรรมรวมกลุ่มมากว่า 50 คน , ร้านสะดวกซื้อตลาดโต้รุ่ง เปิดบริการตั้งแต่เวลา 04.00 น. ถึง 23.00 น. , ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง ผับบาร์ คาราโอเกะ , ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า เปิดบริการตามปกติ ไม่เกิน 21.00 น. , สถานศึกษาทุกระดับ ห้ามใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอน กิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก , ส่วนสถานที่เสี่ยง หรือสถานที่ที่มีกิจกรรมเสี่ยง ให้เปิดบริการตามข้อกำหนด สถานที่เล่นกีฬา เปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. แข่งขันได้โดยจำกัดผู้ชมผู้เล่น

ศบค. 1.JPG

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ยังเห็นชอบการปรับระยะเวลาการกักตัวเป็น 14 วัน สำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร โดยให้มีการยกระดับการกักตัวปรับจากเดิมที่มีการกักตัว 7 หรือ 10 วันเป็น 14 วัน ทุกประเภท ไม่อนุญาตให้ออกจากห้องพักยกเว้นเพื่อทำการตรวจหาเชื้อและรักษาพยาบาล

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. ยังให้ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากสถานการณ์ โควิด-19 ศบศ.พิจารณากำหนดมาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการยกระดับในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน และขอให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับภาคประชาสังคมเร่งรัดในการช่วยเหลือดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อยและประชาชนกลุ่มเปราะบางอย่างเต็มขีดความสามารถ

นายก.jpg

เล็งปรับระเบียบปรับไม่สวมแมสก์ไม่สร้างภาระประชาชน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ประชุมมอบหมายให้กรมควบคุมโรค เสนอต่อคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ พิจารณาออกระเบียบการเปรียบเทียบปรับ กรณีการฝ่าฝืนไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือผ้า รวมไปถึงกรณีอื่นที่จำเป็นในสถานการณ์นี้ โดยยกเว้นไม่ให้นำระเบียบของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติว่าด้วยหลักเกณฑ์การเปรียบเทียบปรับปี 2563 ที่บังคับใช้อยู่ในปัจจุบันนี้มาใช้

ทั้งนี้ จะมีการกำหนดอัตราเปรียบเทียบปรับให้เหมาะสมกับกรณี ไม่สร้างภาระเกินความสมควรแก่ประชาชน และกำหนดขั้นตอนการดำเนินงานของเจ้าพนักงานควบคุมโรค และผู้มีอำนาจเปรียบเทียบปรับ พร้อมเพิ่มมาตรการอื่นๆที่เหมาะสมก่อนเปรียบเทียบปรับ เช่น ตักเตือน การทำสาธารณะประโยชน์ โดยให้ดำเนินการภายในหนึ่งสัปดาห์

ก่อนหน้านี้ประชาชนคงจะได้รับทราบกรณีบทลงโทษของผู้ที่ฝ่าฝืนเกี่ยวกับการไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า อย่างเรื่องที่ท่านนายกรัฐมนตรีประชุมแล้วไม่ได้ใส่หน้ากาก ก็เลยโทรบอกเจ้าหน้าที่ให้มาเทียบปรับ และยินยอมที่จะให้ปรับ แต่ปรากฏว่ามีกรณีที่ไม่ยินยอม เรื่องต้องไปถึงศาลกลายเป็นเรื่องที่มีความยุ่งยากตามมา

ตั้งเป้าฉีดวัคซีนเข็ม 2 ให้จบในปีนี้

ส่วนเรื่องการจัดหาวัคซีน ประชากร 70 ล้านคนต้องได้รับวัคซีน 70% ซึ่งเป็นแผนที่เห็นชอบ หรือประมาณ 50 ล้านคนซึ่งจะใช้วัคซีนทั้งหมด 100 ล้านโดส โดยประเทศไทยจัดหาได้แล้ว 63 ล้านโดสจึงต้องจัดหาเพิ่มอีก 37 ล้านโดสสำหรับประชากรในประเทศจำนวน 18.5 ล้านคน โดยต้องหาให้ได้ทันและเพียงพอและเข็มที่ 2 เสร็จสิ้นภายในเดือน ธ.ค. ปี 2564 ซึ่งหากสามารถจัดหาวัคซีนได้ 20 ล้านโดส 2 เดือนจะทำให้สามารถฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป้าหมายบุคลากรทางการแพทย์ผู้ที่ทำงานสถานการณ์อาชีพเสี่ยง ตำรวจทหาร พนักงานขับรถสาธารณะ ครู ประชาชนที่มีโรคเรื้อรังและผู้สูงอายุ และประชาชนทั่วไป แผนต่างๆถูกวางไว้ทั้งหมดแล้ว โดยมีการลงไปในรายละเอียดว่าขอเน้นย้ำความมั่นใจว่า จะมีการฉีด ให้แล้วเสร็จภายในปลายปีนี้ โดยใช้บริการที่จะฉีดวัคซีนทั้งในและนอกโรงพยาบาลจำนวน 1,000 แห่ง แห่งละ 500 ถึง 1,000 โดสต่อวัน ซึ่งจะสามารถฉีดได้ 100 ล้านโดสภายใน 4 ถึง 7 เดือน ตรวจพื้นที่กรุงเทพมหานครถือเป็นพื้นที่เปราะบาง โดยจะต้องให้มีการจัดจุดบริการต่างๆ 

โดยกระทรวงสาธารณสุข เสนอให้เพื่อพิจารณาใน 3 ข้อประกอบด้วย แผนการจัดหาวัคซีนจำนวน 100 ล้านโดส โครงการการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม 18.5 ล้านคน 37 ล้านโดส และขออนุมัติหลักการให้ทางภาครัฐและเอกชน สามารถจัดหาวัคซีนได้ ทั้งไฟเซอร์ จำนวน 5 - 20 ล้านโดส

ซิโนแวค 5-10 ล้านโดส สปุตนิก วี จำนวน 5-10 ล้านโดส/Johnson & Johnson จำนวน 5 - 10 ล้านโดส  วัคซีนอื่นๆเช่น moderna ชิโนฟาร์ม  Bharat วัคซีนอื่นๆที่มีการขึ้นทะเบียนในอนาคต