ไม่พบผลการค้นหา
อดีตผู้บริหาร ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok อ้างคำให้การในคดีความว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ที่รวบรวมโดย ByteDance เจ้าของ TikTok ผ่าน “ข้อมูลรับรองระดับพระเจ้า” ที่ใช้ตรวจสอบและติดตามนักเคลื่อนไหวและผู้ประท้วงชาวฮ่องกงในปี 2561

ในเอกสารยื่นฟ้องต่อศาล หยินเทา’โรเจอร์’ หยู อดีตหัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมของ ByteDance ในสหรัฐฯ กล่าวว่าคณะกรรมการพิเศษของพรรคคอมมิวนิสต์จีน มีการเข้าระบบประตูลับไปยังไฟร์วอลล์ที่สร้างขึ้นโดย ByteDance เพื่อปกป้องข้อมูลผู้ใช้ และพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ใช้การเข้าถึงนี้ เพื่อสอดแนมผู้ใช้ที่เป็นนักกิจกรรมในฮ่องกง

“เครื่องมือระบุตัวตนของผู้ประท้วง ผู้สนับสนุน และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน ถูกติดตามนอกเหนือจากข้อมูลเครือข่าย การระบุตัวตนในซิมการ์ด และที่อยู่ IP” หยูกล่าวในเอกสารที่ยื่นต่อศาลในซานฟรานซิสโกในสัปดาห์นี้ “ข้อมูลนี้ใช้เพื่อระบุตัวตนและตำแหน่งของผู้ใช้ แอป TikTok ได้จัดเก็บข้อความโดยตรงของผู้ใช้ทั้งหมด ประวัติการค้นหา เนื้อหาที่ผู้ใช้ดู และระยะเวลา จากบันทึก ผมเห็นว่าคณะกรรมการสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ สถานที่ และการสื่อสารของผู้ประท้วง นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิพลเมือง และผู้สนับสนุน”

หยูกล่าวว่าการมีอยู่ของ “ข้อมูลรับรองระดับพระเจ้า” นั้นเป็นที่ทราบกันดีในหมู่ผู้บริหารของ ByteDance และขัดแย้งโดยตรงกับคำสัญญาที่พวกเขาให้ไว้กับสมาชิกรัฐสภาในสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ที่กำลังถกเถียงกันว่า แต่ละประเทศจะทำการแบน TikTok หรือไม่ เนื่องจากปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ โดยข้อสงสัยว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีน สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ TikTok จากทั่วโลกได้

คำกล่าวอ้างของหยู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฟ้องร้อง ByteDance จากการไล่ออกโดยมิชอบ เป็นไปตามการยื่นฟ้องของศาลในเดือน พ.ค. ซึ่งหยูกล่าวหาว่าระบบประตูลับ “อนุญาตให้บุคคลระดับสูง (จากพรรคคอมมิวนิสต์จีน) เข้าถึงข้อมูลผู้ใช้ได้ ไม่ว่าข้อมูลจะอยู่ที่ใด แม้ว่าข้อมูลจะอยู่ที่ใดก็ตาม แม้กระทั่งระบบที่ดูแลโดยบริษัทในสหรัฐฯ ที่มีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ”

ตามเอกสารที่ยื่นต่อศาล หยูกล่าวว่าเขายังได้เห็น ByteDance ใช้ TikTok เพื่อส่งเสริมวาระในทางการเมืองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รวมถึงการส่งเสริมเนื้อหาที่ "แสดงความเกลียดชังต่อญี่ปุ่น" และลดระดับเนื้อหาที่แสดงการสนับสนุนการประท้วงเพื่อประชาธิปไตยของขบวนการปฏิวัติร่มในฮ่องกง 

นอกจากนี้ ByteDance ยังถูกกล่าวหาว่าคัดลอกข้อมูลบนเว็บไซต์และของคู่แข่งอย่าง Instagram และ Snapchat โดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย

หยูกำลังฟ้องร้อง ByteDance ด้วยข้อกล่าวหาว่าทางบริษัทไล่เขาออก เนื่องจากเขาแจ้งข้อกังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายในบริษัท การละเมิดการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส และการเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับการลาพักรักษาตัว ที่เกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยของเขา ทั้งนี้ ByteDance ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่งปฏิเสธคำร้องของคดีนี้เมื่อวันพุธ (7 มิ.ย.)

“น่าแปลกที่หยูไม่เคยยกข้อกล่าวหาเหล่านี้เลยมาในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่เขาถูกเลิกจ้างจาก Flipagram ในเดือน ก.ค. 2561 การกระทำของเขามีจุดประสงค์อย่างชัดเจน เพื่อดึงดูดความสนใจของสื่อ” โฆษกของบริษัทกล่าวผ่านแถลงการณ์ต่อสำนักข่าว Al Jazeera “เราวางแผนที่จะคัดค้านสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นการกล่าวอ้าง และข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริงในการร้องเรียนนี้อย่างจริงจัง หยูทำงานให้กับ ByteDance Inc. ได้ไม่ถึงปี และการจ้างงานของเขาสิ้นสุดลงในเดือน ก.ค. 2561 ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่บริษัท เขาทำงานในแอปพลิเคชันชื่อ Flipagram ซึ่งหยุดให้บริการไปหลายปีก่อนด้วยเหตุผลทางธุรกิจ”


ที่มา:

https://www.aljazeera.com/economy/2023/6/7/china-spied-on-hong-kong-activists-using-tiktok-lawsuit-claims?fbclid=IwAR02EUg6i0PD13vILVtZSyfp4y4CmIB5lfkx6B0nEzqtePRzqURRsyUqHC4