ไม่พบผลการค้นหา
7​ แกนนำราษฎร​ ปฏิเสธทุกข้อหา​ชุมนุม 14 ตุลา​ 63 จวกใช้กฎหมายย้อนแย้ง-มุ่งเอาผิดแบบมั่วซั่ว​ ย้ำ! ม.112​ สร้างความกลัวให้ราษฎรไม่ได้แล้ว​ เผยปี​ 64​ การต่อสู้เข้มข้นกว่าเดิมแน่

ที่​ สน.สำราญราษฎร์ แกนนำและผู้ปราศรัยขบวนการราษฎร'63 รวม​ 7​ คน​ กล่าวหลังรับทราบข้อกล่าวหาคดีชุมนุมวันที่​ 14​ ตุลาคม​ 2563​ โดยต่างปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและจะให้การเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันที่​ 19​ มกราคมนี้​ และต่างเห็นว่าเป็นการใช้กฎหมายปละตั้งข้อหาหาที่ย้อยแย้งและกลั่นแกล้งประชาชน​


กฎหมายย้อนแย้ง-จงใจคุมขังแกนนำ

ทัตเทพ เรืองประไพกิจเสรี​ จากคณะประชาชนปลดแอก​ กล่าวถึงความย้อนแย้งของการบังคับใช้กฎหมายและตั้งข้อกล่าวหากลุ่มตนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คือ การประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินแล้ว ไม่สามารถนำกฎหมายปกติ​อย่าง ​พ.ร.บ.ชุมนุม​ มาบังคับใช้ได้​ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กฎหมายซ้ำซ้อนกันเอง​ โดยตั้งข้อหากับกลุ่มตนทั้งความผิดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินและตามกฎหมายชุมนุม

จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน​ ย้ำถึง การตั้งข้อหามั่วเพราะจงใจจะเอาผิดแกนนำสำคัญบางคน​ ทั้งที่ไม่เข้าองค์ประกอบความผิด​ อย่างกรณีของตน​ที่ถูกจับกุมตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม​ 2563​ แต่กลับมีคดีจากการชุมนุมวันที่ 14 ตุลาคม 2563 ทั้งที่ตนไม่ได้เข้าร่วม​ โดยตำรวจชื่อมโยงว่าตนได้ร่วมแถลงข่าววันที่ 8 ตุลาคม​ จึงต้องมีความผิดที่เกี่ยวกับการชุมนุมวันที่ 14 ตุลาคมด้วย​ ซึ่งตนเห็นว่า​ ฟังไม่ขึ้น 


ม.112 ไร้ความศักดิ์สิทธิ์-นำสถาบันกษัตริย์สู่เกมการเมือง

"ไผ่​ ดาวดิน" ยังกล่าวถึงการใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ของผู้มีอำนาจว่าต้องการให้ประชาชนผู้ถูกกล่าวหาหวาดกลัวอย่างในอดีต​ แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว​ แม้ว่าเป็นกฎหมายตัวเดิม​ แต่ให้ผลแตกต่างกันออกไป​ ทั้งยังทำให้หมดความศักดิ์สิทธิ์ ส่วนวิธีการต่อสู้ของราษฎรต่อการบังคับใช้กฎหมายมาตรานี้ คือการรณรงค์ให้ยกเลิกมาตรานี้นั่นเอง​ เพราะที่ผ่านมามีการเรียกร้องให้แก้ไขมาตรา 112 แต่ผู้มีอำนาจไม่ใส่ใจ​ประชาชน​จึงต้องเรียกร้องให้ยกเลิก

ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ แกนนำกลุ่มมหานครเพื่อประชาธิปไตย​ มองว่า​การใช้มาตรา​ 112​ ของผู้มีอำนาจเป็นการนำสถาบันกษัตริย์ มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง​ นำสถาบันฯมาเป็นโล่กำบังให้รัฐบาลและเป็นการทำให้กษัตริย์​ กลายมาเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับประชาชน​ จึงอยากให้ผู้มีอำนาจพิจารณาเรื่องนี้ให้ดี และคนในสังคมพิจารณาได้ว่า​ การใช้กฎหมายเเละดำเนินการลักษณะนี้ของผู้มีอำนาจเหมาะสมหรือไม่

โดยทั้งหมดยืนยันจะต่อสู้เคลื่อเนไหวทางการเมืองต่อไป​ตามแนวทางสันติวิธีและยึด​ 3​ ข้อเรียกร้องหลักดังเดิม​ และปีนี้จะเข้มข้นมากขึ้นแต่ยังเปิดเผยรายละเอียดไม่ได้​ ให้สังคมติดตามความเคลื่อนไหว​  

อ่านเพิ่มเติม