สำนักข่าวเรดิโอฟรีเอเชียภาคภาษาลาว (RFA Laos) รายงานว่า เมืองปทุมพร แขวงจำปาสัก ของสปป.ลาว ได้จับกุมคนไทย 7 ราย ช่วงเช้าวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่าน จากการที่คนไทยกลุ่มหนึ่งจากหมู่บ้านสุขเกษม อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ออกไปเก็บเห็ดในป่าตามแนวชายแดนไทย-ลาว และได้เผลอข้ามพรมแดนเข้าไปยังอำเภอปทุมพร จังหวัดจำปาสัก จนถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ทางการลาวนั้น ในเบื้องต้น ผู้ว่าราชการจังหวัดจำปาสักของลาว ได้ตั้งข้อหาทั้ง 7 ฐานเข้าเมืองผิดกฎหมาย
RFA ระบุว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทางการไทยได้ส่งจดหมายไปยังสำนักการต่างประเทศแขวงจำปาสักเพื่อสอบถามความคืบหน้าของชาวไทยทั้ง 7 คน และเพื่อดำเนินการส่งตัวกลับประเทศ แต่ยังไม่ได้แจ้งความคืบหน้าแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานการต่างประเทศ จ.จำปาสัก แจ้งเพียงว่า ยังไม่รู้รายละเอียดการกักขังชาวไทยทั้ง 7 คน แต่จะช่วยติดตาม อีกทั้งเผยว่า ในอดีตมีกรณีที่คนไทยเดินทางมาที่ชายแดนลาวเพื่อเก็บเห็ดและบางคนผลัดหลงเพราะไม่รู้จักชายแดน การเจรจาจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่
ขณะที่ RFA เผยคำให้สัมภาษณ์ของชาวบ้านในแขวงจำปาสักว่า ไม่ต้องการให้ทั้งฝั่งไทยและลาวควบคุมการข้ามแดน เนื่องจากที่ผ่านมาชาวไทยและชาวลาวมีพรมแดนติดกันต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยเก็บเห็ดในป่าร่วมกัน จึงไม่น่าใช่ปัญหาใหญ่
"คนลาว คนไทย ใจดีมาก ไม่กล้าพูดมาก คนลาวรักคนไทยมาก เป็นพี่น้องกัน"
สำหรับคนไทยทั้ง 7 รายที่ข้ามชายแดนลาวซึ่งสามารถระบุชื่อได้คือ ทศพร อายุ 30 ปี สุวิทย์ 33 ปี สิรินยา 32 ปี วันนภา อายุ 27 ปี พระวิเชียร 42 ปี ยุพิน และอีกรายที่ไม่ทราบชื่อ อายุ 42 ปี
พื้นที่ชายแดนที่คนไทยถูกกักตัวไว้นั้นไม่ชัดเจน เพราะระหว่างเขตแดนทั้งลาวและไทยในปัจจุบันนั้นยังมีอีกหลายส่วนที่ยังไม่บรรลุข้อตกลงที่ชัดเจนร่วมกัน
ในรายงานข่าวของ RFA ภาคภาษาลาวไม่ได้ระบุว่า ชาวไทยกลุ่มดังกล่าวนั้น ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดแล้วหรือไม่ และยังไม่ได้ปล่อยตัวทั้ง 7 แต่อย่างใด
กรณีข่าวกลุ่มคนไทยข่าวคนไทย 7 คน ถูกทหารแขวงจำปาสัก จับตัวไป ขณะที่ไปเก็บเห็ดในเขตแดนลาว ได้กลายเป็นที่สนใจหลังจากสื่อโทรทัศน์ช่องหนึ่งนำเสนอข่าวว่า ชาวไทยกลุ่มดังกล่าวได้รับวัคซีน mRNA ก่อนถูกปล่อยตัวกลับประเทศ ซึ่งในรายงานของวิทยุลาว ไม่มีเรื่องคนไทยจะได้รับการฉีดวัคซีนตามที่สื่อไทยได้เสนอข่าว
รายงานข่าวของ RFA ภาคภาษาลาวสอดคล้องกับ ข้อความของผู้ใช้งานเฟซบุ๊กที่ชื่อ Fuangrabil Narisroj ของ นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ซึ่งเคยประจำการที่สถานทูตไทย ณ นครหลวงเวียงจันท์ สปป.ลาว สองวาระ โดยข้อความตอนหนึ่งระบุว่า
"ล่าสุด ผมก็ได้ตรวจสอบไปยังแหล่งข่าวต่างๆสมัยที่ผมเคยทำงานที่ลาว ต่างก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ในชั้นนี้ทางฝ่ายลาวจะกักขังผู้ลักลอบฝ่าฝืนเข้าเมืองเป็นเวลา 14 วัน ก่อนส่งตัวกลับไทย และไม่มีการพิจารณาเรื่องวัคซีนแต่อย่างใด !!!"
กรณีคนไทย ๗ ราย ถูกจับกุมข้อหาล้ำแนวชายแดนไทย-ลาว เข้าไปเก็บของป่าในบริเวณพื้นที่ช่องทางธรรมชาติ อ.สิรินธร จ. อุบลราชธานี
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกรณีคนไทย ๗ รายถูกจับกุมตัวเมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๔ เนื่องจากรุกล้ำแนวชายแดนไทย- สปป. ลาว เข้าไปเก็บของป่า (เห็ด) ในบริเวณพื้นที่ช่องทางธรรมชาติ อ.สิรินธร จ. อุบลราชธานี ตรงข้ามกับเมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก สปป. ลาว ดังนี้
๑. หลังคนไทยกลุ่มดังกล่าวถูกจับกุม ทางการ สปป. ลาวได้ประสานงานกับตำรวจชายแดน อ.โขงเจียม เพื่อตรวจสอบชื่อผู้ถูกจับกุมทั้ง ๗ ราย เมื่อทราบเรื่อง สถานกงสุลใหญ่ ณ แขวงสะหวันนะเขต ซึ่งรับผิดชอบเขตอาณาดังกล่าว ได้ประสานงานกับแขวงจำปาสักเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ถูกจับกุม และได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่า ขณะนี้คนไทยทั้ง ๗ ราย อยู่ที่ศูนย์กักตัวหลัก ๒๑ ของแขวงจำปาสัก โดยแผนกการต่างประเทศของแขวงจำปาสักได้มีหนังสือแจ้งการจับกุมคนไทยทั้ง ๗ รายอย่างเป็นทางการแล้วโดยจะกักตัวคนไทยทั้ง ๗ ราย เป็นเวลา ๑๔ วัน ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-๑๙ ของ สปป.ลาว ก่อนจะดำเนินการตามกฎหมาย และส่งตัวกลับประเทศไทยต่อไป
๒. จากกรณีที่เป็นข่าวว่า สปป. ลาว ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ ให้แก่คนไทยทั้ง ๗ รายนั้น จากการตรวจสอบกับฝ่าย สปป. ลาว ปรากฎว่า ยังไม่มีการพิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-๑๙ ให้คนไทยทั้ง ๗ ราย ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อมวลชนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถานกงสุลใหญ่ฯ จะประสานงานกับแขวงจำปาสักในการให้ความช่วยเหลือ และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้คนไทยทั้ง ๗ รายสามารถเดินทางกลับประเทศไทย