Thailand
DSI พบหลักฐาน 'อภิสิทธิ์-สุเทพ' ผิดสร้างโรงพัก
Feb 27, 2013
( Last update Feb 27, 2013 11:23 )
อธิบดี ดีเอสไอ พบหลักฐานสำคัญเอาผิดรัฐบาลที่แล้ว ในคดีทุจริตก่อสร้างโรงพัก เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.เดิม โดยดีเอสไอจะสรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช.ในสัปดาห์หน้า
อธิบดี ดีเอสไอ พบหลักฐานสำคัญเอาผิดรัฐบาลที่แล้ว ในคดีทุจริตก่อสร้างโรงพัก เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.เดิม โดยดีเอสไอจะสรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช.ในสัปดาห์หน้า
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงถึงความคืบหน้าผลการสอบสวนโครงการก่อสร้างสถานีตำรวจทดแทน 396 แห่ง ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้ว ว่าดีเอสไอเพิ่งพบหลักฐานสำคัญ 2 ส่วน โดยพบว่าการที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี สั่งยกเลิกการประมูลจัดซื้อจัดจ้างรายภาค เปลี่ยนเป็นการรวมสัญญาเดียวนั้นเข้าข่ายฝ่าฝืนมติคณะรัฐมนตรีในสมัยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ที่มีมติตามความเห็นของสำนักงบประมาณว่าโครงการก่อสร้างโรงพักควรจัดซื้อจัดจ้างเป็นรายภาค
ส่วนหลักฐานชิ้นที่สองพบว่า บริษัท ซินเท็ค ค���นสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเคยร่วมประมูลโครงการก่อสร้างโรงพักด้วยนั้น เคยร้องเรียนต่อคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีการอิเล็คทรอนิกส์ ว่าการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในโครงการก่อสร้างโรงพักไม่น่าถูกต้อง ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ได้มีมติว่าการจัดซื้อจัดจ้างแบบรวมสัญญาขัดต่อมติ ครม. เดิม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี จึงมีความผิดตามมาตรา 11 และมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.ฮั้ว และมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ซึ่งดีเอสไอคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนส่งให้ ป.ป.ช. ได้ในสัปดาห์หน้า
สำหรับข้อหาฉ้อโกงของบริษัท พีซีซี ดีเวลอปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด ต้องรอการตัดสินใจ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าจะร้องทุกข์หรือไม่ แต่บริษัทที่ได้รับความเสียหายจากการรับเหมาช่วงต่อจากบริษัท พีซีซีฯ จำนวน 20 ราย ได้ร้องเรียนต่อดีเอสไอแล้ว รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 69 ล้านบาท โดยบริษัทพีซีซีฯ ต้องเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาฉ้อโกงภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้
