จากอดีตถึงปัจจุบัน จากด้านนอกถึงด้านใน จากหัวใจถึงการปฏิบัติ ทุกอย่างถูกรวมไว้ที่ลิโด้และสกาล่า โรงภาพยนตร์แนวสแตนด์อะโลน ใจกลางสยามสแควร์ วอยซ์ทีวีได้รวบรวม 5 จุดเด่นของโรงภาพยนตร์ลิโด้และสกาล่าที่แตกต่าง และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาฝาก

 

เพียงแวบแรกที่ได้เห็นโรงภาพยนตร์ทั้ง 2 แห่ง  ก็เหมือนได้ชื่นชมศิลปะที่งดงาม โดยเฉพาะที่สกาล่า เพราะทั้งผนังและเพดาน เป็นการใช้ศิลปะผสมผสานหลายยุคหลายสมัยไว้ด้วยกัน

 

นอกจากนั้นลิโด้  และสกาล่า ยังถือเป็นแหล่งรวมภาพยนตร์ทางเลือกที่มีคุณภาพ โดยคัดสรรภาพยนตร์ที่กวาดรางวัลจากเวทีต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงภาพยนตร์รางวัลออสการ์ ที่จะเข้าฉายเป็นประจำ นอกจากนี้ ภาพยนตร์ที่ถูกฉายบ่อยและกลายเป็นอีกหนึ่งลายเซ็นของเอเพ็กซ์ หนีไม่พ้นภาพยนตร์ญี่ปุ่น เช่น ล่าสุดเตรียมนำเรื่อง Chronicle of My Mother  ความทรงจำคือมรดกชิ้นสุดท้ายของแม่ ที่กวาด 6 รางวัลจากทั่วโลกเข้าฉาย

 

นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ ของลิโด้และสกาล่า ที่เลือกใช้พนักงานเป็นคนรับโทรศัพท์ ให้ข้อมูล ตรวจสอบวันและเวลาฉาย แทนระบบคอมพิวเตอร์ และยังมีทีเด็ด กับการใช้มุกขำๆ พูดคุยกับลูกค้าให้รู้สึกผ่อนคลาย ด้วยความเชื่อที่ว่าเรารู้จัก คอภาพยนตร์ดีที่สุด 

 

เมื่อตัดสินใจชมภาพยนตร์แล้ว หน้าโรงภาพยนตร์ ยังมีบูธเล็กๆ เพื่อจำหน่ายน้ำและป็อบคอร์น  ของคู่ใจของคนรักภาพยนตร์ ซึ่งที่นี่มีป็อบคอร์นเฉพาะรสเค็มเท่านั้น และขายในราคา 30 บาท

 

เมื่อเครื่องดื่มและขนมพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาเข้าชมภาพยนตร์ โดยต้องผ่านด่านตรวจสอบตั๋ว ที่มีชายหนุ่มวัยกลางคน สวมสูทสีเหลือง เครื่องแบบที่ใช้ตั้งแต่วันเปิดโรงภาพยนตร์จนถึงวันนี้ หรือยาวนานถึง 46 ปี ซึ่งพนักงานแต่ละคนล้วนทำงานกับโรงภาพยนตร์ลิโด้และสกาล่า  มานานกว่า 20 ปีทั้งนั้น โดยเค้ายืนยันด้วยหัวใจของคนทำงาน ว่าหากถึงวันที่ลิโด้และสกาล่าต้องปิดตัวลง ก็จะไม่ทำงานในกรุงเทพอีก และปลายทางคงจบลงที่บ้านเกิดในต่างจังหวัด

 

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเอกลักษณ์ตลอดเส้นทาง 46 ปีของโรงภาพยนตร์แนวสแตนด์อะโลน ลิโด้และสกาล่า ที่เหลืออยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในบันทึกประวัติศาสตร์ ของวงการภาพยนตร์ไทย