สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร่วมกับมูลนิธิพัฒนาผู้นำเยาวชนและองค์กรภาคี แถลงข่าวเปิดตัวเครือข่ายปฏิบัติการเลือกตั้ง หรือ CEPP (Civic Election Participation Partnership) ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ให้การรับรองแล้วตามเอกสาร กกต.เลขที่ 4/2561
เพื่อระดมและเปิดรับอาสาสมัครในการเป็นตาสับปะรด 77 จังหวัดทั่วประเทศ และช่วยสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย, รัฐธรรมนูญ, การมีส่วนร่วมทางการเมืองหรือตรวจสอบการเลือกตั้ง รวมทั้งชักจูงให้ออกมาใช้สิทธิและทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ตามมาตรา 35 ประกอบมาตรา 22(5) ของ พรป.ว่าด้วย กกต. ปี 2560
นายวงษ์ภูมิ วนาสิน ประธานมูลนิธิพัฒนาผู้นำเยาวชน ในฐานะประธาน CEPP ระบุถึง ภารกิจเครือข่ายและพลังเยาวชนที่เป็นส่วนหนึ่งให้การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรมว่า ที่ผ่านมาอำนาจรัฐมักบอกให้ประชาชนทำตามคำสั่ง โดยไม่อธิบายเหตุผลและความจำเป็น เหมือนการยัดเยียดทั้งกฎหมายและนโยบายให้ประชาชน ซึ่งเครือข่ายมีแนวทางในการมุ่งอธิบายเหตุผลเพื่อชักจูงประชาชนให้เห็นความสำคัญของการเลือกตั้งและการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลในอนาคตด้วย
"ศรีสุวรณ" ฉะ กกต.ต้องให้พรรคการเมืองใช้ที่ราชการได้ อย่าโบ้ย ท้องถิ่น
นายศรีสุวรรณ จรรยา รองประธาน CEPP กล่าวว่า ความมั่งคั่งกระจุกตัวที่คนส่วนน้อย ขณะที่นโยบายรัฐก็เอื้อประโยชน์กลุ่มทุน ส่วนนักการเมืองก็ถูกจำกัดบทบาท ดังนั้นการเลือกตั้งจึงเป็นวาระสำคัญ และต้องทำให้การมีส่วนร่วมของประชาชนต่อเนื่อง ทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้ง
นอกจากนี้ต้องให้ประชาชนดูผลงานหรือพฤติการณ์นักการเมืองในอดีตด้วย เพื่อให้เห็นความเสมอต้นเสมอปลายของ ส.ส. และยังต้องตรวจสอบ กกต.ด้วย โดยยืนยันว่า การรณรงค์ของเครือข่ายจะเข้มข้นอยู่และต่อเนื่องและยาวนาน ด้วยความจริงจัง ไม่หน่อมแน้มอย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้ เรียกร้องให้ กกต.กำหนดให้ชัดเจนว่า พื้นที่ใดบ้างที่พรรคการเมืองใช้ปราศัยหรือดำเนินกิจกรรมได้ ไม่ควรโยนหน้าที่ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือภูมิภาค ซึ่งอาจเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมืองบางกลุ่มที่ใกล้ชิด โดยเห็นว่า สถานที่ราชการซึ่งมาจากเงินภาษีประชาชน ควรเปิดให้พรรคการเมืองใช้ได้อย่างเท่าเทียม ส่วนที่ผู้มีอำนาจออกมาระบุว่า ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ราชการปราศรัยนั้น ยิ่งสุ่มเสี่ยงต่อการขัดรัฐธรรมนูญ
นางวันทนา บ่อโพธิ์ อดีตผู้นำแรงงานสตรี ในฐานะรองประธาน CEPP ระบุถึง “พลังสตรีต่อการเลือกตั้งให้สุจริตและเที่ยงธรรม”ว่า ผู้หญิงร่วมในกระบวนการขับเคลื่อนทางสังคมเสมอมา ดูจากวันนี้ที่แถลงข่าวก็มีผู้หญิงเข้าร่วมในสัดส่วนที่เท่าๆกันหรือมากกว่าผู้ชาย พร้อมชี้ว่า ผู้หญิงต้องแสดงพลังออกมาจากหัวใจ ผ่านความเข้าใจบทบาทและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ไม่ถูกบังคับโดยอำนาจใด ซึ่งการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เชื่อว่าผู้หญิงจะไปใช้สิทธิ์ราว 26-27 ล้านคน ซึ่งจะเป็นพลังมหาศาลในการสร้างการเปลี่ยนแปลง
อ่านเพิ่มเติม