วันที่ 7 ก.ค. ฌอน บูรณะหิรัญ นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ หรือ ไลฟ์โค้ช ที่เปิดรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือในการดับไฟป่าในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.-1 พ.ค. 2563 เป็นเงินจำนวน 875,741.53 บาท จนทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความโปร่งใส เเถลงผ่านเฟซบุ๊กเพจ Sean Buranahiran - ฌอน บูรณะหิรัญ โดยระบุว่า ตนมีเจตนาหวังดีในการเปิดรับจาค โดยช่วง 42 นาทีแรก ได้โพสต์เปิดรับเงินผ่านชื่อบัญชี กองทุนลมหายใจ จ.เชียงใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่คนบริจาคเยอะที่สุด
ต่อมา 'โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์' ติดต่อขอบริจาคโดยการโอนเงินเข้าบัญชีตนเอง เนื่องจากไว้วางใจและคล่องตัว จากนั้นตนจึงเข้าใจผิดว่าต้องเปลี่ยนบัญชีในโพสต์ มาเป็นบัญชีตนเอง โดยดำเนินการอย่างรวดเร็วและไม่ได้เตรียมตัวใดๆ
วันที่ 30 มี.ค. ตนเปลี่ยนมาเป็นเลขบัญชีตัวเอง ที่เปิดไว้นานแล้ว กระทั่ง กลางเดือน เม.ย.เมื่อมีเงินบริจารมาหลายเเสน ตนได้ปรึกษากับทางนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ได้รับคำแนะนำว่าให้วางแผนอย่างรอบคอบและเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ เพื่อให้สามารถชี้แจงได้
เมื่อได้รับฟังดังนั้น ตนจึงนำเลขบัญชีของตนเองออกจากโพสต์ทันทีในวันที่ 30 เม.ย.
ฌอน เล่าว่า เมื่อเห็นว่าตัวเองเป็นสื่อและถนัดในการเผยเเพร่ เลยนำเงินบริจาคส่วนหนึ่งมาสร้างความตระหนักรู้เพื่อป้องกันปัญหาไฟป่าในอนาคต โดยลงพื้นที่สัมผัสกับชุมชนบางเเห่ง
จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้นของความไม่รอบคอบ โดยมีการเผยเเพร่คลิปวิดีโอไปเเล้ว 3 คลิป ยังไม่ได้เผยเเพร่อีก 2 คลิป อย่างไรก็ตามไม่ได้ใช้เงินบริจาคจ้างทีมงาน แต่ใช้สำหรับจ่ายโฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊ก
ต่อมาเมื่อเกิดปัญหาโควิด-19 ตนได้ตัดสินใจแบ่งเงินรับบริจาคให้กับโรงพยาบาลที่ร้องขอ โดยขาดความรอบคอบในการสื่อสารกับสังคม
วันที่ 27 มิ.ย.เกิดคำถามขึ้นจากเพจหนึ่งทางออนไลน์ เข้ามาเรื่องการบริจาค
ณ เวลานั้นรู้สึกเป็นห่วง และ มีเจตนาที่จะแสดงความบริสุทธิ์ใจ จึงได้รีบร้อนออกมาชี้แจงทางโพสต์ในเฟซบุ๊ก ตนขออภัยในความไม่รอบคอบในการจัดการการบริจาคทั้งหมดความหละหลวมในการนำเสนอข้อมูลในชุดแรก
สื่อสารไปตั้งแต่ยังรวบรวมข้อมูลไม่ครบถ้วนดี
"วันนั้นผมรีบร้อนอยากรีบสื่อสารให้เร็วที่สุดเพราะห่วงความรู้สึกเพื่อน ๆ ที่ไว้ใจผมและบริจาคเข้ามา จึงสื่อสารข้อมูลตัวเลขออกไปไม่ครบถ้วน
"ณ เวลานั้นผมไม่ได้อยู่บ้าน และ ไม่ทันเช็คให้รอบคอบ
จึงรีบให้ทีมงานสรุปยอดเท่าที่มีใบเสร็จที่รวบรวมไว้และยืนยันได้ ณ เวลานั้น
โดยได้แจ้งในเพจไปว่ายอดบริจาค 875,741.53 บาท แต่ที่จริงยอดนั้นคือยอดที่ได้ใช้ไปโดยรวมจากใบเสร็จในขณะนั้น (มีการใช้คำผิด)
ภายหลังเมื่อตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนก็พบว่ามียอดที่ใช้ไปตามใบเสร็จทั้งสิ้น 991,541.36 บาท และในบัญชีนี้มีเงินเข้ามาในช่วงเวลาที่รับบริจาคทั้งสิ้น เป็นเงิน 1,338,644.01 บาท
ฌอน ระบุว่า ทันทีที่ทราบว่ามีข้อมูลตกหล่นจึงคิดว่าควรมีหน่วยงานกลาง ที่เชื่อถือได้มาตรวจสอบในวันที่ 29 มิ.ย. จึงรีบยื่นจดหมายถึงหน่วยงานในจังหวัดเชียงใหม่ ขอความอนุเคราะห์ให้จัดทีมเข้ามาตรวจสอบ Statement บัญชีที่รับบริจาคและบัญชีอื่น ๆ รวมทั้งใบเสร็จ
"ผมได้แสดงหลักฐานทั้งหมด ต่อเจ้าหน้าที่ในวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมาที่จังหวัดเชียงใหม่ แสดงให้เห็นว่าผมไม่ได้นำเงินส่วนใดไปใช้เรื่องส่วนตัวเลย
ทั้งนี้ มีผู้บริจาคสามารถที่ขอเงินคืน 2 ราย ได้ดำเนินการคืนเงินแล้ว รายละ 100 และ 200 บาท จำนวนรวม 300 บาท
จากการที่ผมไม่รอบคอบ คิดไม่ถี่ถ้วนในการจัดการเงินบริจาค ผมขอน้อมรับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ และ สื่อต่างๆที่ปรารถนาดี ผมขอแสดงความรับผิดชอบโดยจะรวบรวมเงินบริจาคทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ ส่งมอบให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือเรื่องไฟป่าต่อไป"
จำนวนเงินสรุปได้ดังนี้
ยอดบริจาค(ตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค. – 30 เม.ย.) การโอนเข้าจำนวน 5,974 ครั้ง Statement 167 แผ่น เป็นจำนวนเงิน 1,338,644.01 บาท
รวมกับ
1.เงินอีกส่วนที่เข้ามาในบัญชีบริษัทและบัญชีส่วนตัวที่จำนวน
จำนวน 41 ครั้ง เป็นยอดรวม 3,501.95 บาท
ซึ่งเราสันนิษฐานว่าอาจเป็นเงินที่ผู้โอนมีเจตนาเพื่อร่วมบริจาค
2. เงินที่เข้ามาหลังจากปิดบริจาคหลังจากวันที่ 1 พ.ค.ถึง 28 มิ.ย.
มีผู้โอนเข้ามาอีก 50 ครั้ง เป็นยอดรวม 4,189.92 บาท
3. เงินที่เข้ามาหลังจากปิดบริจาคหลังจากวันที่ 29 มิ.ย. ถึง 2 ก.ค.
มีผู้โอนเข้ามาอีก 49 ครั้ง เป็นยอดรวม 551.85 บาท
รวมจำนวนทั้งหมดหลังจากนำเลขบัญชีออกจาก Post รับบริจาค 4741.77 บาท
รวมจำนวนเงินทั้งหมดที่จะส่งมอบ 1,346,887.73 บาท
ไลฟ์โค้ชดังระบุว่า เมื่อได้ส่งมอบให้แก่หน่วยงานเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
รายละเอียดปรากฏตาม Statement ของธนาคารกสิกรไทย สาขามีโชคพลาซ่า 050-8-34604-2 ธนาคารกสิกรไทย ชื่อ นาย ฌอน บูรณะหิรัญ
ฌอน กล่าวปิดท้ายว่า รู้สึกเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอโทษทุกคนที่ทำให้เป็นห่วง จะนำความผิดพลาดเป็นบทเรียน มีสติและระมัดระวังในการใช้ชีวิตต่อไป
"ไม่มีวันไหนที่ผมจะไม่คิดเเละรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมขอโทษที่ทำให้ครอบครัว เพื่อนๆ เเละแฟนๆ ต้องเป็นห่วงและกังวลในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมขอโทษในการสื่อสารทุกๆ อย่าง ที่ไม่ถูกต้องเเละเหมาะสม เเละก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดี และขอขอบคุณทุกคำติชมคำวิจารณ์ทุกมุมจากสังคม ทุกสื่อ รวมถึงกำลังใจของทุกคน
"ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิตของผม ผมได้รับกำลังใจเเละจะจำเป็นบทเรียนในสิ่งที่พลาดไป ผมจะไม่ทำผิดซ้ำเดิม ผมจะไม่หมดกำลังใจ ผมจะไม่ทิ้งความตั้งใจ ซึ่งผมทำคนเดียวคงไม่สำเร็จ พลังของเพื่อนๆ เป็นเรื่องสำคัญของผม ทุกเสียงด่า เสียงติ เสียงชมมีความหมายต่อผม ให้ผมได้เรียนรู้ชีวิต ว่าผมจะใช้ชีวิตด้วยความระวังเเละมีสติต่อไป"