พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบโล่ เกียรติบัตร และให้โอวาทกับเด็กและเยาวชนที่ผ่านการประกวดศิลปะ โครงการพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนด้วยศิลปะในสามจังหวัดชายแดนใต้ ภายใต้หัวข้อ "พลังแห่งรัก" พร้อมมอบของที่ระลึกให้แก่ตัวแทนเด็กและเยี่ยมชมนิทรรศการที่ได้รับผลงาน
นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ประเทศไทยมีอัตลักษณ์มีหลายศาสนา หลายภาษาก็อยู่ด้วยกันไม่ว่าจะมีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่ทุกคนก็เข้มแข็ง พยายามช่วยกันขับเคลื่อนบ้านของเรา ประเทศของเรา ให้เดินไปข้างหน้า วันนี้ถือว่าได้ทุกคนเปรียบเสมือนผ้าขาวบริสุทธิ์ ขึ้นอยู่ว่าแต่งแต้มสีสันอะไรลงไป ให้เกิดความสวยงาม ให้มีคุณค่ามากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยแรงสนับสนุนจากรัฐบาล กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ภาคใต้ก็อยู่ในเกณฑ์ที่เป็นที่น่าสนใจคือสถานการณ์มีความรุนแรงลดลงแค่ไหนก็ตามใจยังคงต้องแก้ไขปัญหาเหล่านี้ให้เร็วที่สุด ทำให้การพัฒนาเดินหน้าไปได้ช้าจำเป็นต้องมีมาตรการอื่นเสริมนอกจากการเมืองการพัฒนาและการขับเคลื่อนสังคมและวัฒนธรรมในการใช้ศิลปะและใช้ความรักมาประกอบมาให้เป็นคนไทยที่มีคุณค่าเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะอยู่ภาคใดเชื้อชาติใด ศาสนาใด จำเป็นต้องเป็นพลเมืองที่มีคุณค่ามีการเรียนรู้คิดวิเคราะห์เพื่อทันต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ในปัจจุบัน
"สิ่งที่อยากบอกหลานๆ คือ ด้านการศึกษา ซึ่งส่วนตัวได้เดินทางไปพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อพบปะกับนักเรียน ซึ่งมีความตื่นตัวความตั้งใจในการพัฒนาตนเอง เพื่อจะได้ภาพพอใจเป็นอย่างมาก ที่ได้เห็นท่าทีของนักเรียนที่แสดงออกถึงความกล้าในการพูดหรือแสดงออกในสิ่งที่เป็นประโยชน์แสดงให้เห็นถึงการมีน้ำใจ ซึ่งในวันนี้มีทั้งการเติมทั้งในสิ่งที่ดีและไม่ดี ซึ่งตนคิดว่าทุกคนต้องมีภูมิต้านทานที่ดีที่สุด" นายกรัฐมนตรี กล่าว
โดยนายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำว่า ประเทศไทยเป็นคนทั้งประเทศ ไม่ใช่ของนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีคนใด แต่เป็นของทุกคน ทุกคนเป็นพลเมืองไทยที่จะเป็นพลเมืองที่ตื่นรู้ และรู้ว่าจะเดินหน้าประเทศไทยอย่างไร ไม่ใช่เป็นประชาชนหรือพลเมืองที่เฉยชา ซึ่งต้องกระตุ้นตนเองและคนอื่นด้วย
พร้อมกับในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับเด็กๆ ว่าอยากเป็นอะไรก็ให้เป็นตามสัญชาตญาณ ซึ่งสัญชาตญาณของตนตั้งใจจะเป็นทหารตั้งแต่เด็ก แต่ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นนายกรัฐมนตรีหรือผู้บัญชาการทหารบก การทำลายประเทศชาติไม่ใช่เรื่องสนุกสนาน อยากจะบอกให้เข้าใจว่ารัฐบาลทำงานในเต็มที่ พร้อมขอให้เสพสื่อโซเชียลอย่างระมัดระวัง และต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดี เพราะรัฐบาลนี้ได้พยายาม พัฒนาที่ไม่เคยทำมาก่อน และยอมรับบางคนก็ไม่เข้าใจตนบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไร
“รัฐบาลพยายามหางาน หาอาชีพ หาพื้นที่ใหม่รองรับพวกเราในการทำงานวันหน้า ตั้งใจไว้ อยากเป็นอะไรก็ตั้งใจไว้ มันไม่เสียหาย เหมือนนายกฯ เองก็ตั้งใจไว้แต่เด็กว่าอยากเป็นอะไร แล้วไม่เคยเปลี่ยนเพราะมันเป็นสัญชาตญาณของลุงเองด้วย ถึงได้มาเป็นทหาร แต่ไม่ได้คิดว่าจะมาเป็นนายกฯ ไม่เคยคิดด้วยซ้ำ แม้กระทั่งเป็นผบ.ทบ.ก็ไม่เคยคิด มันเป็นของมันเอง” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว