เมื่อตอน 'ต่อ' ภควัตร เทพวิทักษ์กิจ นั่งทำงานอยู่ที่บ้าน สาวคนสนิท 'บี' ทักษยา เฉลิมชาติ อดีตเซลส์มากความสามารถ เข้ามาขอคำแนะนำและให้ช่วยออกแบบโมเดลธุรกิจ ‘เอนเตอร์เทน’ อย่างมืออาชีพ หลังเพื่อนสาวโสดของเธอหลายคนเจอผู้ชายตามโซเชียลมีเดียหลอก
"มีเงินแต่ไม่อยากมีแฟน แค่อยากได้คนไปดูหนัง เดินห้าง รับฟังปัญหา แต่กลับโดนหลอก ถูกยืมเงินบ้าง ลวนลามบ้าง" บี ทักษยา เล่าถึงความต้องการของผู้หญิงและอันตรายที่พวกเธอพบเจอ
ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ทั้งคู่เห็นโอกาสและมองว่าถึงเวลาแล้วที่จะมี 'ธุรกิจขายความสุข' ที่ให้บริการอย่างมืออาชีพ
"สังคมต้องเลิกดัดจริตสักทีครับ" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง และเห็นว่าการนำธุรกิจประเภทนี้ขึ้นมาอยู่บนดิน ดีกว่าหลบๆ ซ่อนๆ แล้วค่อยพูดถึงเมื่อตอนเกิดปัญหาฉาวโฉ่เท่านั้น
หนุ่มสาวเอนเตอร์เทนไม่ได้ถูกสงวนไว้เฉพาะแค่คนเหงาเท่านั้น
บี ยืนยันว่ามีผู้หญิงหลายคนที่ประสบความสำเร็จในเส้นทางธุรกิจหรือหน้าที่การงาน ไม่ได้ต้องการมีแฟนหรือคนรัก ขอเพียงแค่คนที่คอยมอบความสุขและร่วมกิจกรรมเชิงบวกที่พวกเธอต้องการเท่านั้น
“เราไม่อยากมีภาระ ไม่อยากมีความรับผิดชอบ วันๆ มีเรื่องให้คิดเยอะแยะอยู่แล้ว แค่อยากได้ใครสักคนร่วมกิจกรรมในเวลาที่ต้องการ กินข้าว ช็อปปิง ดูหนัง ออกกำลังกาย ฉันเหนื่อยแล้วอ่ะ ฉันต้องการเธอเวลานี้” สาววัย 33 ปียิ้มเขินๆ
ต่อ เสริมว่า ความต้องการของผู้หญิงไม่ต่างจากผู้ชาย และไม่ใช่เรื่องที่น่ารังเกียจสำหรับไลฟ์สไตล์แบบนี้
“ผู้ชายหลายคนเข้าร้านเหล้ายังต้องการเพื่อนผู้หญิงมานั่งพูดคุยด้วย ผู้หญิงก็เหมือนกัน เธอต้องการผู้ชายเป็นเพื่อนพูดคุยรับฟัง ไม่ใช่คิดแค่เรื่องเซ็กซ์” เขาบอกพลางยักคิ้วแบบหนุ่มเจ้าสำราญ
ปัจจุบัน เมื่อไม่มีบริการที่มีมาตรฐานความปลอดภัย ไม่มีระบบตรวจสอบประวัติและติดตามผู้ซื้อและขายที่ชัดเจน ทำให้เกิดปัญหาเกินเลยไม่คาดคิด
“เราไม่รู้เลยว่าจะเจออะไรบ้าง จากคนที่เราดีลไป” ต่อกล่าวถึงสถานการณ์ที่เป็น
Premium Escort คือชื่อแบรนด์ที่เขาเพิ่งเปิดตัว ช่วงแรกให้บริการสำหรับผู้หญิงเท่านั้น โดยบอกเหตุผลว่า เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารและสร้างความคุ้นเคยต่อสังคม ก่อนมองไปที่ความหลากหลายในขั้นต่อไป
“เราหาคนที่ born to be (เกิดมาเพื่อสิ่งนี้) และโฟกัสไปที่กลุ่มผู้ซื้อและขายระดับพรีเมียม โดยใช้ราคาเป็นตัวกำหนด” ต่ออธิบาย และว่าในอนาคตมีไอเดียนำคนธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องหน้าตาหล่อเหลา มีรูปร่างดีระดับนายแบบ แต่เป็นคนที่ทำให้สาวๆ รู้สึกเข้าถึงได้ในชีวิตจริงมาให้บริการ
“บางคนไม่ได้ต้องการคนหล่อ เน้นตลกเฮฮา น่ารักสนุกสนาน เอนเตอร์เทน กินเบียร์เป็นเพื่อนได้”
โมเดลของ Premium Escort ให้บริการผ่านไลน์แอปพลิเคชัน ผู้หญิงที่สนใจสามารถติดต่อ บอกความต้องการพร้อมแจ้งสถานที่ เช่น ดูหนัง กินดื่ม ท่องเที่ยว เซอร์ไพรส์วันเกิด ออกกำลังกาย ก่อนเลือกชายหนุ่มที่ตรงสเปก
มีการจัดเก็บประวัติของผู้ให้และผู้รับบริการ (ฝ่ายหลังถูกเก็บเป็นความลับและลบทิ้งหลังจากครบ 30 วัน) บันทึกสถานที่พบเจอ และภายหลังเสร็จงาน พนักงานต้องแจ้งแอดมินเพื่อยืนยันปิดจ็อบ ระหว่างทำงานหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดมีปัญหา หรือทำนอกเหนือจากข้อตกลง สามารถแจ้งยกเลิกบริการได้ทันที
"เราตามตัวได้ ทุกคนถูกสัมภาษณ์ ถูกเทรนมาอย่างดี เรารู้เบื้องหลังทุกคน” เขายืนยันเรื่องความปลอดภัย สั่งห้ามเรื่องผิดกฎหมายเด็ดขาด
หลังเปิดให้บริการประมาณ 2 สัปดาห์ Premium Escort มีชายหนุ่มพร้อมให้บริการราว 20 คน ในฐานะอดีตเซลส์เขาและเธอต้องสอนทักษะและทัศนคติการให้บริการ พัฒนาศักยภาพของเด็กในสังกัด ดึงจุดเด่นออกมาเพื่อตอบโจทย์อีกฝ่าย รวมถึงรับฟังคำติชมจากลูกค้าเพื่อเก็บปัญหามาพัฒนา
“ทัศนคติเป็นเรื่องสำคัญมาก ส่วนทักษะสร้างความสัมพันธ์และความประทับใจนั้นเป็นเรื่องรายละเอียดที่ต้องพัฒนาควบคู่ไปพร้อมกับจุดเด่นของแต่ละคน สิ่งที่เราต้องทำคือล้วงเอาความต้องการของอีกฝ่ายออกมา รับฟัง และให้บริการจนเขาสบายใจ”
อัตราราคาค่าบริการ 1,000 บาทต่อชั่วโมง อัตราขั้นต่ำในการใช้บริการ 5 ชั่วโมง ค่าบริการไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่ารถ ค่าที่พัก ค่าอาหาร เป็นต้น
ค่าบริการตลอดทั้งวันอยู่ที่ 13,000 ต่อวัน
นอกจากความสำเร็จเชิงธุรกิจที่วัดกันที่รายได้ ต่อและบี ยังต้องการยกระดับภาพลักษณ์ของกลุ่มคนทำงานบริการด้วย
ชายวัย 38 ปี ผู้หลงใหลในชีวิตที่มีสีสันมาตลอด แสดงทัศนะว่า สังคมถูกปลูกฝังให้มองคนทำงานบริการประเภทนี้ในทางลบ ทั้งที่จริงแล้ว บางคนอาจเลือกไม่ได้จากโอกาสทางการศึกษา ชีวิตครอบครัว และเหตุผลส่วนตัวที่คนนอกไม่ล่วงรู้
“เด็กพวกนี้ไม่ใช่คนเลว บางคนเป็นเทรนเนอร์มืออาชีพ เป็นหนุ่มบาร์โฮสต์มากความสามารถ หาเงินเลี้ยงครอบครัวไม่แตกต่างจากคนทั่วไป”
เขาบอกจริงจัง “อยากให้สังคมเข้าใจ ปัญหาที่ผ่านมาเกิดจากการไม่มีระบบ เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด งานแบบนี้มันมีความสุขและความปลอดภัยพร้อมๆ กันได้”
(ทีมงานผู้ก่อตั้ง)
บี เพิ่มเติมว่า การบริหารอย่างมืออาชีพ มีกฎกติกา มีสวัสดิการที่ทัดเทียมอาชีพอื่นๆ สามารถช่วยให้สังคมมีมุมมองใหม่ๆ ต่อผู้ให้บริการ และยังช่วยให้ผู้รับบริการกล้าเข้าถึงความสุขโดยไม่ต้องกลัวว่าตัวเองกำลังทำผิดอยู่หรือเปล่า
ทั้งคู่บอกว่าสังคมควรยอมรับความจริง เนื่องจากการปฏิเสธและทำกันแบบลับๆ คือเส้นทางนำไปสู่ปัญหา โดยยกตัวอย่างต่างประเทศ จีน ญี่ปุ่น หรืออื่นๆ ที่สามารถให้บริการได้อย่างมืออาชีพ เปิดเผยและได้รับการยอมรับ
“เราดึงออกมาเพื่อให้คนยอมรับความจริง ทำให้มันเป็นระบบซะ”
อนาคตพวกเขามองไปถึงการนำหนุ่มสาวหน้าตาดีมาทำงานเป็นไกด์ทัวร์พาเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในเมืองไทย โดยมีตัวอย่างความสำเร็จของเกาหลีใต้ที่มีบริการ 'โอปป้าพาเที่ยว'
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :