ไม่พบผลการค้นหา
ภาคตะวันออกของออสเตรเลียประสบภัยแล้งและอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สาหร่ายแพร่ระบาดในแม่น้ำ จนปลาขาดออกซิเจนและตายเป็นเบือนับล้านตัว

ไนออล แบลร์ รัฐมนตรีแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ ทางตะวันออกของออสเตรเลีย เตือนประชาชนในพื้นทืี่ เตรียมตัวรับมือกับอุณหูมิที่จะเพิ่มสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะประชาชนที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น ผู้ปวยโรคหอบหืด โรคหัวใจรวมถึงผู้สูงอายุและเด็ก เนื่องจากอากาศที่ร้อนสะสมจะส่งผลต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ อากาศที่ร้อนและแล้งอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำในแม่น้ำเมอร์เรย์-ดาร์ลิง แม่น้ำสายสำคัญในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง และสาหร่ายแพร่ระบาด ทำให้ออกซิเจนในแม่น้ำลดต่ำลง ส่งผลให้ปลาตายเป็นเบือนับล้านตัว และเริ่มมีกลิ่นเน่าเหม็นอย่างรุนแรงเพราะไม่สามารถกำจัดซากปลาได้ทันเวลา ทั้งยังส่งผลกระทบต่อสภาพน้ำในแม่น้ำ รวมถึงสุขภาพของประชาชนในละแวกใกล้เคียง

สก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ระบุว่าปลาตายจำนวนมหาศาลเป็นผลจากภาวะภัยแล้งที่รุนแรง แต่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของจอห์น วิลเลียมส์ นักวิจัยในออสเตรเลีย ซึ่งโต้แย้งว่า ระดับน้ำในแม่น้ำลดลง เป็นผลจากที่รัฐบาลปล่อยให้ประชาชนในรัฐนิวเซาท์เวลส์ผันน้ำในแม่น้ำไปใช้โดยไม่มีการควบคุมตรวจสอบอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการปล่อยให้ประชาชนใช้น้ำในแม่น้ำช่วยลดต้นทุนในโครงการก่อสร้างและการจัดการด้านสาธารณูปโภคของรัฐบาลได้

อย่างไรก็ตาม นายกฯ มอร์ริสัน ยืนยันว่า การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในแม่น้ำเมอร์เรย์-ดาร์ลิงและแม่น้ำสายอื่นของรัฐบาลปัจจุบัน เป็นการดำเนินงานตามนโยบายที่เริ่มขึ้นในสมัยอดีตรัฐบาล ภายใต้การนำของพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านในปัจจุบัน พร้อมย้ำอีกว่า รัฐบาลตระหนักถึงความเร่งด่วนในการแก้ปัญหาปลาตาย แต่ขอเตือนฝ่ายค้านว่าอย่าทำให้เรื่องดังกล่าวกลายเป็นประเด็นโจมตีทางการเมือง

นอกจากนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียระบุด้วยว่า อุณหภูมิในช่วงสัปดาห์นี้จะแตะไปถึง 45-46 องศาเซลเซียสในรัฐวิกตอเรีย, นิวเซาท์เวลส์ และเซาท์ออสเตรเลีย

ที่มา: ABC News/ AFP