พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 หรือ กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ ที่พรรคเสรีรวมไทยเสนอชื่อนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นกรรมาธิการฯ ว่า เนื่องจากพรรคมี ส.ส.น้อย แต่มีภารกิจค่อนข้างมาก อีกทั้งเห็นว่า นายสมชัยมีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับการเข้าไปเป็นกรรมาธิการฯ ซึ่งทางพรรคได้สอบถามตัวนายสมชัย แล้วทราบว่า มีตั้งใจที่จะร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย จึงได้ส่งชื่อไปร่วมศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ส่วนประเด็นที่จะฝากเข้าไปสู่การแก้ไขนั้นอีก 1-2 วันจึงจะมีการพูดคุยว่า มีมาตราใดที่ต้องแก้ไข อาจตรงกับทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน พร้อมยืนยันว่า แนวทางการทำงานของนายสมชัยกับพรรคเสรีรวมไทยเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยอมรับด้วยว่า การศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เสียงฝ่ายค้านน้อยกว่าเสียงฝั่งรัฐบาล ดังนั้น การทำงานของคณะกรรมาธิการจะออกมาในทิศทางใดนั้น ขึ้นอยู่กับความตั้งใจที่จะทำเพื่อประชาชนของกรรมาธิการ และแม้ว่าเสียงฝ่ายค้านน้อยกว่า แต่ก็ยังดีกว่าญัตติการตั้งกรรมาธิการศึกษาแก้ไขผลกระทบจากคำสั่ง คสช. ที่ล้มเหลวไป แต่ญัตตินี้ทั้งสองฝ่ายเห็นร่วมกันว่า จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงเชื่อว่าจะต้องมีที่แก้ไขได้บ้าง สำหรับฝ่ายค้านเองจะพยายามได้มากได้น้อยอย่างไรก็จะทำให้เต็มที่ แต่ก็ถูกขวางพอสมควร โดยเฉพาะในส่วนที่อาจจะทำให้เกิดการสูญเสียอำนาจ เช่น บทเฉพาะกาลที่ให้ ส.ว.ร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ที่เชื่อว่า ไม่สามารถแก้ไขได้แน่นอน
ส่วนที่มีชื่อนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานกรรมาธิการฯ มีความคาดหวังมากเพียงใดนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ มองว่า นายพีระพันธุ์ ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อมารับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีแล้ว ถือว่าประกาศตัวชัดเจนแล้วว่าอยู่ฝั่งใด ก็ย่อมต้องทำตามที่ผู้มีอำนาจจะสั่งการ
ส่วนที่มีชื่อของนายอุดม รัฐอมฤต อดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ มาเป็นกรรมาธิการฯ ด้วยนั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า เป็นชื่อทางฝั่งรัฐบาลเสนอ ไม่สามารถวิจารณ์ได้ เพราะพรรคเล็กเสนอได้แค่เพียงคนเดียว แต่เชื่อว่า คงไม่ผิดหวัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง