ที่ศูนย์ต้านโรคติดต่อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ นพ.ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) จ.กาฬสินธุ์ โดยจะมีการประกาศสั่งห้ามจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดตั้งแต่วันที่ 11-17 เมษายน 2563 พร้อมห้ามเล่นสาดน้ำ และงดจัดงานสงกรานต์ทุกระดับ

นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุดยังมียอดผู้ติดเชื้อ 3 รายเท่าเดิม ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังสอบสวนโรคสะสม 116 ราย เป็นรายเดิม 108 ราย รายใหม่ 8 ราย สิ้นสุดการเฝ้าระวัง 14 วันแล้ว 68 ราย อยู่ระหว่างเฝ้าระวังกักตัว 48 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อทั้ง 116 ราย พบเชื้อ 3 ราย ไม่พบเชื้อ 107 รอผล 6 ราย  สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศรวมทั้งหมดมีจำนวน 158 ราย ติดตามได้ทั้งหมด อยู่ในช่วงกักตัวกัน14 วันจำนวน 22 ราย สิ้นสุดแล้ว 136 ราย ซึ่งประชาชนกลุ่มนี้จะต้องทำการกักตัวเฝ้าระวังอาการในสถานที่ของรัฐจัดให้เท่านั้น โดยมีจัดเครื่องอุปโภค บริโภค และอาหารให้ฟรี

ส่วนประชาชนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ จังหวัดปริมณฑล และจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดมีจำนวน 20,439 ราย กระจายอยู่ทั้ง 18 อำเภอ ซึ่งทุกคนจะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้คำแนะนำให้ปฏิบัติตัวตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการกักตัวอยู่บ้านให้ครบ 14 วัน ทั้งนี้มีผู้ผ่านพ้นการเฝ้าระวังกักตัว 14 ไปแล้ว 13,766 ราย ยังเหลืออยู่ในระยะเวลาเฝ้าระวังอีก 6,653 ราย ซึ่งประชาชนกลุ่มนี้สามารถแยกตัวจากคนใกล้ชิดกักตัวเอง 14 วันที่บ้านได้ แต่หากสถานที่ไม่เอื้ออำนวยก็สามารถกักตัวในสถานที่รัฐจัดให้ ซึ่งมีอยู่ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ โดยมีจัดเครื่องอุปโภค บริโภค และอาหารให้ฟรีเช่นกัน

นายชัยธวัช กล่าวว่า จ.กาฬสินธุ์ โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จะได้ออกคำสั่งห้ามจำหน่าย จ่าย แจก สุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2563 เพื่อยกระดับในการป้องกันการแพร่ระบาด ผู้ใดฝ่าฝืนจะได้รับโทษตามกฎหมาย เนื่องจากคาดว่าในสงกรานต์นี้หรือ 7 วันอันตราย จะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการป้องกัน โดยเฉพาะการรวมญาติ รวมเพื่อนพบปะสังสรรค์การนั่งล้อมวงดื่มร่วมกัน ซึ่งจะทำให้เชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่เชื้อติดต่อกันได้ง่าย โดยที่ผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ ผู้สูงอายุ เด็กเล็กมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทั้งจากการสัมผัส ไอ จาม และพบอีกว่า น้ำและความชื้นจากน้ำ จะเป็นตัวนำเชื้อไวรัสให้แพร่กระจายได้ง่าย

นอกจากนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขอให้พี่น้องประชาชน งดเล่นสาดน้ำ งดการจัดงานสงกรานต์ในทุกระดับ งดการรดน้ำขอพรญาติผู้ใหญ่ทุกกรณีอย่างเด็ดขาด เว้นระยะห่างด้วยการงดเข้าร่วมกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนหมู่มาก ซึ่งสามารถสืบสานเทศกาลสงกรานต์ด้วยการสรงน้ำพระพุทธรูปที่บ้าน แสดงความกตัญญูและขอพรพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ ด้วยการกราบไหว้ขอพร โดยเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร อย่างไรก็ตามให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ทั้งการเว้นระยะห่าง ไม่รับประทานอาหารร่วมกัน กินร้อน ช้อกลาง ล้างมือบ่อย และขอให้ประชาชนอดทน ร่วมมือ ร่วมใจกัน เพื่อที่จะให้ผ่านพ้นสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ครั้งนี้ไปด้วยกัน