รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระบุหนี้นอกระบบขณะนี้ มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 1,095 ต่อปี ขณะที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ร้อยละ 15 ต่อปี พร้อมผลักดันการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้เป็นวาระแห่งชาติ


​พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวในการ เสวนาเรื่อง วิกฤติหนี้นอกระบบ-ทางออกของสังคมไทย? ซึ่งจัดโดยศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยระบุว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งมักเกิดในกลุ่มประชาชนในระดับรากหญ้าที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน และต้องหันไปพึ่งพาเงินกู้นอกระบบที่ปล่อยกู้โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน และคิดดอกเบี้ยแบบรายวันในอัตราที่สูงกว่าร้อยละ 3 ต่อวัน หรือร้อยละ 1,095 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ร้อยละ 15 ต่อปี และมีวิธีการทวงหนี้แบบข่มขู่และทำร้ายร่างกายลูกหนี้  แต่มีน้อยรายที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอิทธิพลและลูกหนี้ขาดความรู้ความเข้าใจในข้อบังคับทางกฎหมาย


อย่างไรก็ตาม กระทรวงยุติธรรม จะนำข้อสรุปและข้อเสนอแนะที่ได้จากการเสวนาในวันนี้ มาใช้วางแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบแบบบูรณาการ และพร้อมนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อจัดทำเป็นนโยบายรัฐ สำหรับการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่ผ่านมากระทรวงยุติธรรมได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือ ศนธ. เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในด้านต่างๆ ทั้งความช่วยเหลือด้านกฎหมายการฟ้องร้องคดี การดำเนินคดีหรือการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มนายทุนที่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมาย ข่มขู่ และทำร้ายร่างกาย แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้หมดไปจากสังคมไทยได้ กระทรวงยุติธรรมจึงระดมความคิดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อผลักดันการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อนำไปสู่การผลักดันเป็นนโยบายรัฐอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน