สำนักข่าวดีพีเอ สื่อของเยอรมนีรายงานเมื่อ 11 พ.ย. ว่า กระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี (Auswärtiges Amt -AA) ออกแถลงการณ์ตอบกระทู้ถามจากสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนี ระบุว่า "รัฐบาลเยอรมนีไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ว่า พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทย ทรงกระทำการใดที่ผิดกฎหมาย ระหว่างทรงพำนักในเยอรมนี ประเทศที่พระองค์เสด็จประทับอยู่เกือบตลอดปีนี้ และเชื่อว่าพระมหากษัตริย์ไทย ไม่ทรงตัดสินพระทัยที่ขัดต่อระบบกฎหมายของเยอรมนี, กฎหมายระหว่่างประเทศ หรือหลักสิทธิมนุษยชนในระดับสากล ขณะทรงประทับอยู่บนผืนแผ่นดินเยอรมนี"
สื่อเยอรมนี ระบุว่า เมื่อเดือนที่แล้ว ในการเดินขบวนไปยังสถานทูตเยอรมนีในกรุงเทพฯ ของกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย ที่ได้เรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีตรวจสอบว่า พระมหากษัตริย์ไทย ทรงงานบริหารราชการแผ่นดินไทยที่ขัดต่อกฎหมายเยอรมนีหรือไม่
รายงานระบุว่า ขณะนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประทับในประเทศไทย แต่พระองค์ทรงครอบครองวิลลาแถบเทือกเขาบาวาเรียน ซึ่งระหว่างที่เยอรมนีล็อกดาวน์ เพื่อคุมการระบาดของโควิด พระองค์ทรงประทับอยู่ที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในแถบ การ์มิช-พาร์เทินเคียร์เชิน ติดกับพรมแดนออสเตรีย แม้ว่าจะมีกฎห้ามพักค้างคืน
ในแถลงการณ์ที่รัฐบาบเยอรมนีตอบต่อรัฐสภาเบอร์ลิน มิเกล แบร์เกอร์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเยอรมนี ระบุว่า "ข้อมูลที่ได้จากรัฐบาลไทยชี้แจงว่า การเสด็จประทับของพระมหากษัตริย์ไทยในเยอรมนีเป็นเรื่องส่วนพระองค์"
ทั้งนี้ สื่อนานาชาติของเยอรมนี ยังระบุว่า เป็นเวลานานหลายเดือนที่ขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยในไทย ได้เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก, ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และปฏิรูปสถาบัน ซึ่งรัฐบาลยังไม่สามารถระงับการประท้วงด้วย รวมถึงยังมีการจัดกุมผู้ชุมนุมที่ละเมิดกฎหมายการชุมนุมในที่สาธารณะอีกหลายสิบคน
ที่มา : DPA