ไม่พบผลการค้นหา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระพักตร์สดใส ทรงยิ้ม พสกนิกรเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” กึกก้อง

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระพักตร์สดใส ทรงยิ้ม พสกนิกรเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" กึกก้อง

 

เมื่อเวลา 15.05 น. วันนี้(7 ธ.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินออกจากที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช โดยรถเข็นพระที่นั่ง พร้อมด้วยท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ การนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ ศ.คลินิก นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผอ.โรงพยาบาลศิริราชปิยมหาราชการุณย์ เป็นผู้ถวายการเข็นรถพระที่นั่ง พร้อม ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล  และคณะแพทย์พยาบาล ตามเสด็จฯ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ ยัง อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เขตคลองสาน ท่ามกลางพสกนิกรที่เฝ้ารอชื่นชมพระบารมีอย่างเนืองแน่น

 

ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอยู่ในฉลองพระองค์สูทสีฟ้าทับเชิ้ตสีฟ้าลายเส้นตรงหลากสี พระสนับเพลาสีเทาเข้ม รองพระบาทสีดำ พระหัตถ์ซ้ายทรงจูงคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง พระหัตถ์ขวาทรงถือแผ่นพับรายละเอียดอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงยิ้ม และทอดพระเนตรประชาชนที่มาเฝ้ารอรับเสด็จฯ บริเวณห้องโถงอาคารเฉลิมพระเกียรติอย่างทั่วถึง ขณะที่ประชาชนต่างเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯ อุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งตั้งอยู่ใกล้วัดอนงคาราม เขตคลองสาน กทม.

 

จากนั้น เมื่อเวลา 15.20 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ถึงอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งเป็นย่านนิวาสสถานเดิมของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ประชาชนชาวชุมชนสวนสมเด็จย่าและชุมชนใกล้เคียงสวมเสื้อสีเหลืองที่มาเฝ้ารอรับเสด็จฯ กันอย่างเนืองแน่นต่างพร้อมใจกันเปล่งเสียง "ทรงพระเจริญ" พร้อมกับโบกธงไตรรงค์และธงตราสัญญาลักษณ์ "ภปร." พสกนิกรบางรายเมื่อได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จฯ ผ่านถึงกับหลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติที่ได้เห็นพระองค์ท่าน และมีหลายรายนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยกไว้สูงเหนือศีรษะ เพื่อแสดงความเคารพรักอย่างสูงสุด

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ที่ประดิษฐานภายในสวนส่วนหน้าของอุทยาน ซึ่งหล่อด้วยโลหะในพระอิริยาบท ทรงพระสำราญ โดยในส่วนเนินดินใต้เบื้องพระยุคลบาท ประกอบด้วยดินจากสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ ที่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เคยประทับหรือเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ

 

โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรการขับร้องเพลงใต้ร่มพระบารมีจากนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการการประกวดขับร้องเพลงลูกทุ่งไทยในอุทยานครั้งที่ 9  ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระเกษมสำราญ ทรงยิ้ม และทรงถ่ายภาพเด็กนักเรียนที่ขับร้องเพลง พร้อมทั้งทรงถ่ายภาพประชาชนที่มาเฝ้าฯ รอรับเสด็จ จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรอาคารพิพิธภัณฑ์ซึ่งเป็นส่วนบริเวณอนุรักษ์เป็นอาคารเก่าแก่ที่เคยเป็นเรือนบริวารในบ้านของเจ้าพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี (แพ บุญนาค) อธิบดีกรมพระคลังสินค้า ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โดยจัดแบ่งเป็นส่วนอาคารพิพิธภัณฑ์ 2 หลัง โดยหลังที่ 1 โดยในการนี้ทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สำหรับอาคารพิพิธภัณฑ์หลังนี้จัดแสดงเกี่ยวกับพระราชประวัติและที่ประทับครั้งทรงพระเยาว์ของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี รวมทั้งภาพประมวลเหตุการณ์ในการพระราชพิธีพระบรมศพ ตลอดจนประวัติชุมชนย่านวัดอนงคาราม ซึ่งเป็นชุมชนประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นที่อาศัยอยู่ร่วมกันของชนหลายเชื้อชาติศาสนา ทั้งไทย จีน อิสลาม และลาว ที่อยู่ร่วมกันอย่างสมัครสมานสามัคคีมาโดยตลอด

 

จากนั้นเสด็จไปทอดพระเนตรอาคารพิพิธภัณฑ์หลังที่ 2 ที่จัดแสดงพระราชกรณียกิจ พระราชจริยาวัตร และ ผลงานฝีพระหัตถ์ที่ทรงประดิษฐ์ขึ้น หลังจากทรงว่างเว้นพระราชกรณียกิจ อาทิ การเพ้นท์ถ้วยกาแฟ งานปั้นพระพุทธรูป แล้วเสด็จไปทอดพระเนตรบ้านจำลองที่ได้จำลองบ้านเดิมที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เคยประทับเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ ซึ่งอยู่ห่างจากวัดอนงคารามไปไม่เกิน 200 เมตร จัดตกแต่งภายในบอกถึงความเป็นอยู่เรียบง่ายแบบไทย ใกล้กับบ้านจำลองนี้เป็นที่ตั้งของแผ่นแกะสลักเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี โดยเป็นงานประติมากรรมแกะสลักแผ่นหินขนาดใหญ่แบบนูนต่ำ เป็นหินทรายสีเขียวนำมาจากที่โคราช ยาว 8 เมตร สูง 80 เซนติเมตร หนา 90 เซนติเมตร หนักประมาณ 32 ตัน โดยเป็นการจัดวางภาพพระราชกรณียกิจ และภาพริ้วกระบวนไหว้สาแม่ฟ้าหลวง นอกจากนี้ภายในอุทยานเฉลิมพระเกียรติฯ ยังมีศาลาแปดเหลี่ยมที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในโอกาสวันคล้ายพระราชสมภพ ครบ 8 รอบ ซึ่งเคยใช้เป็นที่ประทับเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอุทยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2540 ปัจจุบันเป็นที่ประดิษฐานพระรูปสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี นับได้ว่าอุทยานเฉลิมพระเกียรติแห่งนี้เปรียบประดุจพระราชอนุสรณ์สถานที่รำลึกถึงความรักความผูกพัน และความกตัญญู ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงถวายแด่สมเด็จพระราชมารดาของพระองค์ และยังเป็นสถานที่ศึกษาความเป็นมาของชุมชนเก่าแก่ในฝั่งธนบุรี รวมทั้งเป็นสถานที่พักผ่อนของชุมชนใกล้เคียง ตลอดจนเป็นสถานที่ศึกษาพระราชประวัติของสมเด็จย่า ซึ่งได้อนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่ที่มีมาแต่เดิมอายุกว่า 100 ปี อาทิ ต้นโพธิ์ ต้นชงโค ต้นไทร ท่ามกลางหมู่อาคารโบราณและศิลปะร่วมสมัย ทั้งยังเป็นสถานที่จัดงานรำลึกถึงสมเด็จย่า ซึ่งเป็นเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย ในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดือนพระราชสมภพทุกปี

 

กระทั่งเวลา 16.30 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จกลับยังที่ประทับชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช รวมเป็นเวลา 1 ชม. 25 นาที
 

 

Source : dailynews (Image)

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
190Article
76559Video
0Blog