พอจะมีม็อบทีไร ก็จะมีอาวุธปืน ป่วนม็อบ คือ เข้าปืน เอ็ม 79 นี่แหละ ที่ถูกกล่าวถึง ลองไปทำความรู้จักในรายละเอียดของปืนป่วนม็อบชนิดนี้
ความจริง M79ไม่ใช่อาวุธปืนใหม่หรือหรูหราอะไรเลย เพราะ M79มันถูกออกแบบมาหลายสิบปีแล้ว มีใช้งานกันมาตั้งแต่สมัยสงครามเวียดนาม โดยมีแนวคิดตั้งต้นของการออกแบบ M79คือ ความต้องการในการเพิ่มอำนาจการยิงให้กับหน่วยระดับหมวด (ราว 50นาย) โดยใช้ระบบอาวุธที่อำนาจการทำลายล้างสูงแต่พกพาสะดวก
M79จัดเป็นเครื่องยิงลูกระเบิด เป็นชื่อ เรียกตัวปืน แปลว่า มันมีหน้าที่ยิงลูกระเบิดออกไป คนยิงไม่ต้องขว้าง แต่กระสุนที่จะใช้ยิงมีให้เลือกหลากชนิด เช่น กระสุนหัวระเบิดแบบ M406ซึ่งเป็นกระสุนที่บรรจุดินระเบิดอยู่ เมื่อยิงออกไป ชนวนของกระสุนจะเปิดทำงานเมื่อพ้น ปากกระบอกปืนไปแล้วราว 15 - 30เมตร (ดังนั้นหมายความว่าถ้ามายิง ใกล้ ๆ สมมุติสัก 5เมตรนี่มันจะไม่ระเบิดนะครับ) เมื่อมันกระทบเป้าหมาย มันจะระเบิดออกและส่งสะเก็ดจำนวนราว 300ชิ้นกระเด็นออกไปด้วยความเร็วเหนือเสียงซึ่งจะมีระยะสังหารในรัศมี 5เมตร นอก จากนั้นก็ยังมีกระสุนแบบ M576ซึ่งใช้สำหรับสังหารบุคคลเช่นกัน แต่จะมีพิสัยสั้นกว่า M406เพื่อใช้งานในระยะใกล้
นอก จากกระสุนสังหารแล้ว ก็ยังมีกระสุนแบบอื่นอีกด้วยเช่น กระสุนควัน โดย M79สามารถยิงกระสุนควันแบบ M676ซึ่งให้ควันสีเหลือง, M680ซึ่งให้ควันสีขาว, หรือ M682ซึ่งให้ควันสีแดง (แหมครบสีเลย) หรืออาจจะเป็นระเบิดควันสำหรับชี้เป้าเพื่อให้สัญญาณ ในการยิงทำลายหรือโจมตีทางอากาศ หรืออาจจะเป็นการยิงพลุสัญญาณหรือพลุส่องสว่างเช่น พลุส่งสว่างซึ่งจะเผาไหม้นาน 7วินาทีในกระสุนแบบ M585 (สีขาว), M663 (สีเขียว), หริอ M664 (สีแดง) หรือถ้าต้องการแสง สว่างที่นานกว่านั้นก็อาจจะเลือกกระสุนที่มีร่มชูชีพติดอยู่ โดยร่มชูชีพจะหน่วงการตกของกระสุนและกระสุนก็จะเผาไหม้ได้ถึง 40วินาทีเช่น กระสุนแบบ M585A1 (สีขาว), M661 (สีเขียว), หริอ M662 (สีแดง) พลุส่องสว่างพวกนี้ส่งแสงออกมาได้สว่างมาก
นอกจากกระสุนที่ใช้ในการสงครามแล้ว ยังมีกระสุนที่ใช้ในการปราบจลาจลอีกด้วยเช่น กระสุนแก๊สน้ำตาแบบ M651ซึ่งจะมีแก๊สน้ำตาบรรจุอยู่ 53กรัม สามารถเผาไหม้ได้ 25วินาที ครอบคลุมพื้นที่ถึง 120ตารางเมตร (ราว ๆ พื้นที่ขนาด 10.95x10.95เมตร) และมีระยะยิงราว 200เมตรสำหรับเป้าหมายที่เป็นจุด หรือ 400เมตรสำหรับเป้าหมายเป็นพื้นที่ นอก จากนั้นยังมีกระสุนแบบ M1029ซึ่งบรรจุกระสุนยางขนาด .48นิ้ว ทั้งหมด 48นัด การยิงจะใช้ในการปราบจลาจลโดยมีระยะยิงตั้งต้นตั้งแต่ 10เมตรไปจนถึง 30เมตรซึ่งกระสุนจะหมดพลังงานและตกลงสู่พื้น
ลักษณะของ M79นั้นจะมีพานท้ายปืนที่ทำด้วยไม้และลำกล้องปืนขนาดไม่ยาวนัก การยิงจะทำโดยการหักกระบอกปืนออกเพื่อบรรจุลูกระเบิด (กระสุน) เข้าไปที่ด้านท้ายของกระบอก แล้วพับกระบอกกับพาน ท้ายกลับไปติดเข้าด้วยกันอีกครั้ง บนกระบอกปืนจะมีศูนย์เล็งเพื่อใช้ ในการทำการเล็งยิง โดยเมื่อยิงเสร็จแล้วต้องทำการ บรรจุกระสุนใหม่
ดูแล้ว M79มีประสิทธิภาพมาก ใช้งานง่าย คล่องตัว พกพาสะดวก ให้อำนาจการยิงสูง มีความแม่นยำสูง มีระยะยิงไกล (ไกลสุด 350เมตร) แต่ข้อเสียสำคัญก็คือ มันทำการยิงได้ช้า คือทำการยิงได้ราว 6นัดต่อนาที และที่สำคัญ ในสนามรบ คือ พลยิงมีแค่ M79อย่างเดียว ไม่ได้พกปืนไรเฟิลเหมือนกำลังพลคนอื่น อาวุธ ที่ใช้ป้องกันตัวมีเพียงปืนพกเท่านั้น นั้นให้อัตรา การเสียชีวิตของพลยิง M79ในการรบค่อนข้างสูง เพราะเมื่อยิงกระสุนจนหมดแล้วพลยิงมีเพียงปืนพกเท่านั้นที่ใช้ป้องกันตนเอง และทำการรบในระยะใกล้ได้ยากเนื่องจากกระสุนต้องมีระยะเวลาและระยะทางในการ เดินทาง เมื่อเห็นปัญหานี้ภายหลัง M79จึงเริ่มถูกลดระดับลงและทดแทนด้วย M203ซึ่งติดตั้งอยู่ใต้เล็กยาว แบบ M16นั่นเอง