ไม่พบผลการค้นหา
เพซ ดีเวลลอปเมนท์ฯ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ทำเอ็มโอยูขายโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู "นิมิต หลังสวน" ทั้งโครงการ และ 53 ห้องชุดแบรนด์เดอะ ริทซ์-คาร์ลตันฯ ในตึกมหานคร ให้ "แสนสิริ" แจงหาเงินไปชำระหนี้เงินกู้แบงก์ 

เพซ ดีเวลลอปเมนท์ฯ แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ทำเอ็มโอยูขายโครงการคอนโดมิเนียมสุดหรู "นิมิต หลังสวน" ทั้งโครงการ และ 53 ห้องชุดแบรนด์เดอะ ริทซ์-คาร์ลตันฯ ในตึกมหานคร ให้ "แสนสิริ" แจงหาเงินไปชำระหนี้เงินกู้แบงก์ 

นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE แจ้งแก่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเจรจาซื้อขายโครงการนิมิตหลังสวน (ทั้งโครงการ) และห้องชุดที่พักอาศัยในโครงการเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก (จำนวน 53 ห้องชุด) ในโครงการอาคารชุดมหานคร กับ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 บมจ. เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น และบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทู จำกัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท) ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เพื่อเจรจาซื้อขายและการตรวจสอบสถานะทรัพย์สินของโครงการนิมิต หลังสวน (ทั้งโครงการ) และห้องชุดที่พักอาศัยในโครงการเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก ส่วนที่เหลือทั้งหมด (จำนวน 53 ห้องชุด) ในโครงการอาคารชุดมหานคร 

โดยลักษณะในการซื้อขายโครงการนิมิตหลังสวน (ทั้งโครงการ) นี้ บริษัทฯ จะโอนที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างตามโครงการ สัญญากับผู้รับเหมา สัญญากับลูกค้า และใบอนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้แก่ SIRI 

ส่วนการซื้อขายห้องชุดที่พักอาศัยในโครงการเดอะ ริทซ์-คารล์ตัน เรสซิเดนเซส บางกอก จะเป็นการซื้อขายห้องชุดที่มีการก่อสร้างทั้งหมดในโครงการอาคารชุดมหานครแล้วเสร็จและเปิดใช้งานแล้ว โดยบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการนำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินดังกล่าว มาเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมที่นำมาใช้ในการพัฒนาโครงการดังกล่าวให้แก่สถาบันการเงิน ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนการปรับโครงสร้างเงินทุนของบริษัท

ในเบื้องต้นข้อตกลงการซื้อขายทรัพย์สินที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันดังกล่าวมีเงื่อนไขบังคับก่อน (Conditions Precedent) ที่สำคัญ เช่น ผลการตรวจสอบทรัพย์สินที่ซื้อขาย (Due Diligence) เป็นที่พอใจของ SIRI และจะต้องได้รับความเห็นชอบในการซื้อขายดังกล่าวจากคณะกรรมการบริษัทของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทของ SIRI รวมทั้งได้รับความยินยอมจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

ภายใต้บันทึกความเข้าใจดังกล่าว บริษัท และบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทู จำกัด จะได้รับเงินมัดจำซึ่งเรียกคืนได้ เป็นจำนวนเงินร้อยละ 5 ของราคาซื้อขายประมาณการไว้ ผ่านตัวแทนดูแลผลประโยชน์ (escrow arrangement) โดย SIRI จะได้รับสิทธิแต่ผู้เดียว (Exclusive Right) ในการตรวจสอบทรัพย์สินที่ซื้อขาย (Due Diligence) และเจรจาซื้อขายทรัพย์สินดังกล่าว

ทั้งนี้ ธุรกรรมดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน โดยราคาซื้อขายทรัพย์สินเบื้องต้น และเงื่อนไขข้อกำหนดต่าง ๆ ในบันทึกความเข้าใจดังกล่าวยังไม่ใช่ข้อตกลงสุดท้ายและอาจเปลี่ยนแปลงได้จากผลของการตรวจสอบทรัพย์สินที่ซื้อขาย (Due Diligence) และการเจรจาต่อรองระหว่างคู่สัญญา โดยบริษัท จะแจ้งความคืบหน้าที่เป็นสาระสำคัญให้ทราบต่อไป ภายหลังจากที่ SIRI ได้ดำเนินการตรวจสอบทรัพย์สินที่ซื้อ (Due Diligence) เสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการตรวจสอบทรัพย์สินที่ซื้อขาย (Due Diligence) ไม่เกิน 60 วัน นับจากวันที่ลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าว (หรือวันที่ 6 มกราคม 2561)

 

รายงานโดย : อังศุมาลิน บุรุษ 

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog