เกาหลีใต้เตรียมจัดเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับผู้นำสหรัฐฯ โดยจะเสิร์ฟอาหารที่ปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองที่สื่อต่างประเทศระบุว่ามีอายุ "เก่าแก่ยิ่งกว่าสหรัฐฯ" พร้อมเปรียบเทียบการต้อนรับระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นว่าสะท้อนภาพความสัมพันธ์ของสามชาติที่มีอุณหภูมิแตกต่างกันไป
โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดี (บลูเฮาส์) ในกรุงโซลของเกาหลีใต้ ระบุว่าการจัดเลี้ยงอาหารค่ำต้อนรับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะจัดขึ้นช่วงค่ำวันนี้ (7 พฤศจิกายน) โดยอาหารที่จัดเลี้ยงจะรวมถึงซี่โครงวัวปรุงรสด้วยซอสถั่วเหลืองที่สำนักข่าวต่างประเทศหลายรายระบุว่าใช้เวลาหมักนานถึง 360 ปี และปลาตาเดียวย่าง ซึ่งสำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงานว่าเป็นปลาที่นายทรัมป์ชื่นชอบ
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ซอสถั่วเหลืองที่นำมาปรุงรสอาหารจัดเลี้ยงต้อนรับนายทรัมป์ ถือเป็นสุดยอดเครื่องปรุงในวัฒนธรรมเกาหลีใต้ ตามข้อมูลที่ได้ทำให้เข้าใจว่าซอสดังกล่าวหมักมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1657 ซึ่งเก่าแก่ยิ่งกว่าประเทศสหรัฐฯ แต่ซอสนี้ก็ยังไม่ใช่ซอสถั่วเหลืองเก่าแก่ที่สุดของเกาหลีใต้ เพราะเมื่อปี 2012 มีการจัดระมูลซอสถั่วเหลืองอายุ 450 ปี และมีผู้ประมูลไปในราคากว่า 90,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.97 ล้านบาท
เอเอฟพีระบุว่าอาหารหมักดองเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมเกาหลีใต้ และรัฐบาลเกาหลีใต้มีความตั้งใจที่จะจัดเลี้ยงอาหารประจำชาติแก่นายทรัมป์ ซึ่งโฆษกประจำทำเนียบบลูเฮาส์ระบุว่าอาหารที่คัดเลือกมาทั้งหมดเป็นอาหารประจำชาติที่พิจารณาแล้วว่าถูกปากชาวตะวันตก ส่วนวัตถุดิบและเครื่องปรุงที่ใช้เป็นของภายในประเทศและปรุงตามรสชาติดั้งเดิม
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลในเรื่องซอสถั่วเหลืองของเกาหลีใต้พบว่า เว็บไซต์ส่วนใหญ่ที่ให้ข้อมูลเรื่องนี้ระบุว่า ซอสถั่วเหลืองทั่วไปจะหมดอายุภายในเวลา 2 ปี
แต่การที่เกาหลีใต้จัดเลี้ยงอาหารประจำชาติแก่นายทรัมป์ด้วยการนำเสนอวัฒนธรรมและประเพณีทางด้านอาหาร มีความแตกต่างจากการจัดเลี้ยงต้อนรับนายทรัมป์ที่ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศแรกที่นายทรัมป์เดินทางไปเยือนในการปฏิบัติภารกิจสานความร่วมมือกับ 5 ประเทศเอเชียช่วงวันที่ 5-14 พฤศจิกายน
เอเอฟพีรายงานว่า นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เลี้ยงแฮมเบอร์เกอร์แก่นายทรัมป์เป็นมื้อแรกเมื่อเขาเดินทางมาถึงกรุงโตเกียว ทั้งยังมีสเต็กแบบตะวันตกในอาหารค่ำซึ่งเป็นงานจัดเลี้ยงอย่างเป็นทางการ ทำให้ภาพความสัมพันธ์ของนายอาเบะและนายทรัมป์มีความใกล้ชิดและเป็นกันเองมากกว่าภาพระหว่างนายทรัมป์กับนายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายมุนได้ประกาศว่าเกาหลีใต้จะไม่ยอมปล่อยให้มีการใช้กำลังอาวุธแก้ปัญหาความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลีโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเกาหลีใต้เป็นอันขาด ประกอบกับที่ผ่านมาเขาไม่เห็นด้วยกับโครงการความร่วมมือสหรัฐฯ-เกาหลีใต้ว่าด้วยการติดตั้งระบบยิงต่อต้านขีปนาวุธเพดานบินสูง (THAAD) ซึ่งเป็นข้อตกลงของอดีตรัฐบาลประธานาธิบดีพักกึนเฮ ทำให้นักวิเคราะห์เตือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอาจถดถอยลงในยุคของนายมุน ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เว็บไซต์บลูมเบิร์กรายงานด้วยว่าตัวแทนกลุ่มทุนใหญ่ของเกาหลีใต้จำนวนหนึ่งก็ได้รับเชิญเข้าร่วมพิธีจัดเลี้ยงอาหารค่ำแก่นายทรัมป์ด้วย ได้แก่ นายเชแทวอน ประธานบริหารเครือเอสเค กรุ๊ป และนายชองอีซอน รองประธานกลุ่มฮุนไดมอเตอร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: