ตำรวจญี่ปุ่นเผยรายละเอียดเพิ่มเติมในคดีฆ่าหั่นศพที่จังหวัดคะนะกะวะ พบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 9 รายมีอายุระหว่าง 17 ปี ไปจนถึง 20 ปีตอนปลาย และเจ้าหน้าที่เผยว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุส่วนหนึ่งเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์
นายทะกะฮิโระ ชิระอิชิ ชาวญี่ปุ่นวัย 27 ปี ให้ปากคำกับตำรวจเมื่อวานนี้ (1 พฤศจิกายน) หลังจากที่เขาถูกจับกุมเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา เพราะตำรวจพบเบาะแสว่าเขาเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของผู้หญิงคนหนึ่ง และการบุกตรวจค้นห้องพักของเขาที่อพาร์ทเมนท์ในเมืองซามะ จังหวัดคะนะกะวะ พบศีรษะและร่างมนุษย์ชายหญิงรวม 9 ศพซ่อนอยู่ในตู้แช่เย็นหลายตู้ และนายชิระอิชิให้การว่า เหยื่อรายแรกที่เขาลงมือฆ่าเมื่อเดือนสิงหาคม เป็นวัยรุ่นหญิงอายุ 17 ปี ส่วนเหยื่ออีก 4 รายถูกฆ่าในเดือนกันยายน ซึ่งรวมถึงชายหนุ่มอายุ 20 ปีที่เป็นคนรักของเหยื่อรายแรก และเหยื่ออีก 4 รายถูกฆ่าในเดือนตุลาคม โดยรวมถึงรายสุดท้ายที่เป็นหญิงสาววัย 23 ปี ซึ่งญาติแจ้งความว่าหายตัวไป
ตำรวจระบุว่า พี่ชายของหญิงสาวที่ถูกฆ่าเป็นคนสุดท้ายได้ตรวจสอบบัญชีทวิตเตอร์ของน้องสาวตัวเอง และพบว่ามีการสนทนากับนายชิระอิชิ ซึ่งข้อความล่าสุดที่เขาส่งถึงผู้ตายคือคำชักชวนว่า "มาตายพร้อมกันเถอะ" แต่ตำรวจระบุว่า นายชิระอิชิมีบัญชีทวิตเตอร์อยู่หลายบัญชี เพื่อใช้ติดต่อสนทนากับเหยื่อรายอื่นๆ ซึ่งเกือบทั้งหมดมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย ทำให้เขาชักชวนเหยื่อมาที่ห้องพักโดยเสนอว่าจะช่วยให้ฆ่าตัวตายได้สำเร็จ
นายชิระอิชิสารภาพว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการฆ่าชิงทรัพย์ โดยเขาได้เงินจากผู้ตายรายหนึ่งเป็นเงินกว่า 500,000 เยน และก่อนหน้านี้เขาไม่มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ทั้งยังถูกตำรวจจับกุมจากการเป็นแมวมองชักชวนผู้หญิงไปทำงานค้าบริการในย่านคะบุกิโจซึ่งเป็นย่านค้าประเวณีในกรุงโตเกียว แต่ศาลตัดสินให้รอลงอาญาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเขายังยอมรับด้วยว่าพยายามข่มขืนและทำร้ายร่างกายผู้หญิงคนหนึ่งก่อนจะลงมือฆ่า
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายสอบสวนเปิดเผยข้อมูลว่านายชิระอิชิไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ในระหว่างให้ปากคำ ส่วนคำให้การของบิดานายชิระอิชิวัย 70 ปี ระบุว่าลูกชายของเขาเริ่มพูดจาแปลกๆ นับตั้งแต่ถูกจับกุมเมื่อเดือนพฤษภาคม โดยครั้งหนึ่งเขาได้ยินลูกชายพูดว่า "ไม่รู้จะมีชีวิตไปเพื่ออะไร" ส่วนคนรู้จักของครอบครัวชิระอิชิบางรายระบุว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายหนุ่มนิสัยดี และไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะเกี่ยวข้องกับฆาตกรรมร้ายแรง
ส่วนผู้อาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์ที่เกิดเหตุมองว่านายชิระอิชิเป็นบุคคลที่น่ากลัว เพราะเขามักจะแต่งกายด้วยชุดสีดำและนั่งจ้องโทรศัพท์อยู่คนเดียวที่หน้าอพาร์ทเมนท์ในช่วงกลางคืนอยู่บ่อยๆ และคนในอพาร์ทเมนท์จำนวนหนึ่งได้กลิ่นเหม็นเน่า แต่ไม่อาจระบุที่มาได้ ซึ่งตำรวจสันนิษฐานว่ากลิ่นศพไม่ชัดเจนมากนัก เพราะนายชิระอิชิเก็บชิ้นส่วนอวัยวะไว้ในตู้แช่และกระบะทรายอนามัยที่ใช้สำหรับกลบมูลสัตว์
ส่วนการชันสูตรศพในที่เกิดเหตุอาจต้องใช้เวลานาน เพราะนายชิระอิชิใช้เลื่อยหั่นทำลายศพ เหลือเพียงศีรษะของผู้เสียชีวิต 2 ราย อวัยวะส่วนอื่นๆ ซึ่งถูกหั่นเป็นชิ้นเล็ก และกระดูกอีก 240 ชิ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเพิ่มเติมกับฐานข้อมูลคนหาย โดยจะมุ่งค้นหาผู้ที่หายตัวไปในช่วงที่นายชิระอิชิลงมือก่อเหตุ โดยในแต่ละปี มีคนหายตัวไปในประเทศญี่ปุ่นราว 80,000 คน โดยร้อยละ 40 เป็นผู้มีอายุต่ำกว่า 30 ปี แต่โดยเฉลี่ยแล้วเจ้าหน้าที่จะตามตัวคนหายจนเจอภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ คิดเป็นร้อยละ 70 ของจำนวนคนหายทั้งหมด (Kyodo News)
เรียบเรียงโดย ตติกานต์ เดชชพงศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- มือฆ่าหั่น 9 ศพในญี่ปุ่นเข้าข่าย 'ฆาตกรต่อเนื่อง'
- คนงานก่อสร้างสนามโอลิมปิกโตเกียวฆ่าตัวตายเพราะทำงานหนัก
- เพียงนาที ชีวิตเปลี่ยน ใส่ใจป้องกันลด 'ฆ่าตัวตาย'
