กระทรวงคลังคาดกฏหมายบริหารจัดการบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวบังคับใช้ได้ในปี61 เผยมีเงินในบัญชีเงินฝากที่ไม่เคลื่อนไหวกว่าหมื่นล้านบาท
ตามกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ยกร่างและเปิดให้ประชาชนและหน่วยงาภาครัฐและเอกชนร่วมแสดงความคิด เห็นต่อร่าง พ.ร.บ. การบริหารจัดการบัญชีเงินฝากที่ไม่มีการเคลื่อนไหวของสถาบันการเงิน พ.ศ. ....ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 นี้
ซึ่งหลังจากนั้นจะนำเสนอร่างกฎหหมายดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) และเข้าสู่ขั้นตอนพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อออกมาบังคับใช้ต่อไปคาดว่าจะเป็นภายในปี 2561
ทั้งนี้ รัฐบาลเห็นสมควรให้ยกร่างกฎหมายดังกล่าวขึ้นมาเพื่อให้อำนาจกระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแลเงินฝากของประชาชนที่ไม่มีการเคลื่อนไหวเกินกว่า 10 ปี ขึ้นไปแทนสถาบันการเงิน เพื่อไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในระบบสถาบันการเงินและเป็นการดูแลผลประโยชน์ของประชาชนให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมามีประชาชนส่วนหนึ่งที่มีเงินฝากทิ้งไว้ที่สถาบันการเงินโดยที่บัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน โดยที่ไม่ทราบว่าสถาบันการเงินมีการเก็บค่าบริการรักษาบัญชีไปจนกว่าบัญีจะหมดหากมีเงินฝากเหลือน้อยกว่า 2,000 บาท
ส่วนกรณีที่เงินฝากเกินกว่า 2,000 บาทต่อบัญชีนั้นหากเจ้าของบัญชีไม่ติดต่อกลับมาภายในเวลาที่ธนาคารกำหนดก็จะมีการนำไปใช้ประโชน์หรือตกเป็นรายได้ของธนาคารนั้นๆ โดยที่เจ้าของบัญชีไม่รู้ตัว แต่หากมีกฎหมายดังกล่าวออกมาจะมีการโอนเงินที่ไม่มีการเคลื่อนไหวมาไว้ที่กรมบัญชีกลางเพื่อรอให้เจ้าของบัญชีนำหลักฐานมาขอคืนเงินได้ตลาดเวลาโดยไม่มีระยะเวลากำหนด
ทั้งนี้พบว่าปัจจุบันมีบัญชีเงินฝากที่ไม่เคลื่อนไหวระดับหมื่นล้านบาท ซึ่งมีทั้งผู้ฝากเงินที่ยังมีชีวิตอยู่แต่หลงลืมว่าเปิดบัญชีไว้และกลุ่มที่เสียชีวิตไปแล้ว
กระทรวงการคลังจึงจะทำระบบการค้นหาขอมูลออนไลน์พื่อสืบค้นเงินฝากเพื่อให้ประชาชนเจ้าของบัญชีหรือทายาทตามกฎหมายสามารถสืบค้นและขอคืนเงินได้ต่อไป และในอนาคตหากไม่มีการขอคืนเงินส่วนนี้รัฐบาลก็จะบริหารจัดการนำไปใช้ด้านสาธารณะประโยชนต่อไป