การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งปิดการประชุมในวันนี้ มีมติเห็นชอบการจารึกแนวคิดที่ระบุชื่อสีจิ้นผิงลงไปในรัฐธรรมนูญจีน ซึ่งทำให้สีจิ้นผิงกลายเป็นผู้นำจีนยุคใหม่ที่มีความสำคัญเทียบเท่ากับอดีตผู้นำยุคสร้างชาติอย่างเหมาเจ๋อตุงและเติ้งเสี่ยวผิง

การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีมติเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ให้มีการจารึกชื่อของสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนคนปัจจุบัน และแนวคิดของเขาที่ชื่อว่า "ความคิดแนวสังคมนิยมกับเอกลักษณ์ความเป็นจีนสำหรับยุคใหม่" ลงไปในรัฐธรรมนูญของจีนเพื่อเป็นหลักในการบริหารประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งการที่ชื่อและแนวคิดของสีจิ้นผิงถูกจารึกลงในรัฐธรรมนูญจีนเป็นการยกระดับความสำคัญของนายสีจิ้นผิงให้เทียบเท่ากับอดีตผู้นำสร้างชาติอย่างเหมาเจ๋อตุงและเติ้งเสี่ยวผิงที่ได้รับการจารึกชื่อและแนวคิดลงในรัฐธรรมนูญจีนเช่นกัน

นายเจียงเจ๋อหมินและนายหูจิ่นเทา อดีตประธานาธิบดีก่อนหน้านายสีจิ้นผิง ได้รับการจารึกคติพจน์ในการปกครองประเทศลงในธรรมนูญจีนทั้ง 2 คน แต่ไม่ได้รับการจารึกชื่อลงไปด้วย ซึ่งสื่อต่างชาติมองว่าเพราะนายสีจิ้นผิงมีอำนาจและบารมีในพรรคคอมมิวนิสต์มาก หลังจากขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศได้ 1 สมัย และเป็นเรื่องยากที่คนอื่นๆ ในพรรคจะมีบารมีสู้เขาได้

ในวันนี้ ผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนจำนวน 2,336 คนจากทั่วประเทศ เข้าร่วมการปิดการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมนิวนิสต์จีน ซึ่งมีกำหนดการประชุมทุก 5 ปี โดยมีการลงมติเห็นชอบการคัดเลือกสมาชิกของคณะกรรมการกรมการเมือง หรือ "โปลิตบูโร" จำนวน 24 คน และสมาชิกสมทบอีก 1 คน รวมเป็น 25 คน ซึ่งจะมีการเปิดตัวต่อสาธารณะชนในเช้าวันพรุ่งนี้ (25 ตุลาคม)

นอกจากนี้ยังมีการลงคะแนนเสียงเพื่อเลือกคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน จำนวน 205 คน จากผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อจำนวน 222 คน โดยผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะทำหน้าที่คัดชื่อผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมน้อยที่สุดออกไป และคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเป็นผู้ให้การรับรองสมาชิกของโปลิตบูโรในวันพรุ่งนี้

ภาพ: AP