'อุดมเดช' ปิดประชุมดูแลใต้ ชี้ไทยพร้อมสันติ 100% พร้อมโครงการดูแลพื้นที่และติดตั้งระบบการรักษาความปลอดภัย โดยติดตั้ง CCTV-โดรนเพิ่ม ในงบประมาณปี 61-62 ย้ำจะมีการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า 

ที่โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ พลเอกอุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ก่อนรับฟังและเป็นประธานปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำแผนขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปีงบประมาณ 2561 ว่า วันนี้จะเป็นการรับฟังสรุปผลการปฏิบัติงานทั้ง 7 กลุ่ม โดยมีตัวชี้วัดสำคัญคือการตั้งเป้าหมายในการลดการก่อเหตุ ที่ตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปหรือตีออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ แต่เบื้องต้นได้วัดแล้วว่าปีที่ผ่านมาสถิติการก่อเหตุลดลง 30% เพราะฉะนั้นในปีต่อๆไปหากดีขึ้นอย่างที่คาดการณ์เหตุการณ์จะลดน้อยลงไปอีก แต่ทุกภาคคส่วนต้องมีความตั้งใจในการทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่หากเข้าใจและร่วมแก้ปัญหาความไม่สงบได้จะทำให้เกิดการแก้ไขในระยะยาวอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 

พร้อมระบุอีกส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบภาคใต้คือกระบวนการพูดคุยสันติสุข ที่ยังคงต้องมีต่อไป แม้หลายส่วนอาจมองว่ายังได้ผลไม่เป็นที่พึงพอใจนัก แต่ขอยืนยันว่า คณะของพลเอกอักษรา เกิดผล ได้ทำหน้าที่มาโดยตลอด และผลสำเร็จขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ไม่ใช่แค่ของเราฝ่ายเดียว รัฐมีความพร้อมมีความตั้งใจจริง ต่างประเทศต่างทราบดีว่ารัฐไทยใฝ่สันติสุข จึงไม่ละ ลด สิ่งนี้ไป แม้จะมีอุปสรรค แต่ยังเร่งดำเนินการต่อ ส่วนแนวทางต่างๆที่กำหนดไว้ ก็เป็นไปตามที่พลเอกอักษราเคยระบุไว้ และขอยืนยันว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการแก้ปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ และฝ่ายรัฐไทยพร้อมแล้ว 100% ที่จะดำเนินการ

สำหรับการประเมินผลการก่อเหตุ ระบุมีการวัดผลอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ยืนยันว่าทุกส่วนราชการได้ร่วมมือกันทำโดยมี กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าเป็นหน่วยงานหลัก ส่วนงานพัฒนาพื้นที่แบะชุมชนเป็นของ ศอ.บต. งานสร้างความเข้าใจในพื้นที่เป็นส่วนของกระทรวงมหาดไทย ยอมรับว่ายัังมีการก่อเหตุแต่จำนวนครั้งการเกิดเหตุลดลง ซึ่งจะพยายามบูรณาการและแก้ไขกันต่อไป

สำหรับในที่ประชุมตัวแทนกลุ่มภารกิจที่ 1 รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ระบุว่า เป้าหมายในปีงบประมาณ 2561 คือ งบประมาณต่างๆจะมีการใช้อย่างคุ้มค่า มีการเพิ่มการจัดกิจกรรมนันทนาการเพื่อพัฒนาประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ทั้งในเขตเมือง ชุมชน และหมู่บ้านเป้าหมาย มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และมีการเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 เปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง โดยมีงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมด 6,115 ล้านบาทเศษ โดยแบ่งเป็น 11 โครงการ 12 กิจกรรม

โดยมีโครงการสำคัญคือ โครงการเฝ้าระวัง การติดตั้งระบบป้องกันปลอดภัยในเขตเมืองระยะที่ 2 ด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในเขตพื้นที่ 6 อำเภอ งบประมาณ 122 ล้านบาทเศษ โดย กอ.รมน. ภาค 4 สน. และโครงการเฝ้าระวังการติดตั้งกล้องวงจรปิด 233 จุดตรวจพื้นที่ งบประมาณ 15 ล้านบาท ดำเนินการโดย ศอ.บต. โครงการจัดตั้งชุดคุ้มครองตำบล เพิ่มเติม 60 ชุดจากเดิมที่มีอยู่ 106 ชุด งบประมาณ 396 ล้านบาทเศษ โดยกรมการปกครอง 

นอกจากนี้ยังมีโครงการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มโดรนจำนวน 41 ตัว และกอ.รมน. จะจัดทำแผนเพิ่มโดรนในปี 2562 จำนวน 214 ตัวซึ่งจะแจกจ่ายระดับกองร้อยของ ฉก.ทหารพราน และ ฉก.หมายเลข และมีแผนจะจัดทำโครงการเฝ้าตรวจ Smart City ในปีงบประมาณ 2562

ส่วนกรมพลศึกษามีแผนเพิ่มกิจกรรมนอกจากฟุตบอลสันติสุข โดยจะเพิ่มกิจกรรมนันทนาการ คือ การแข่งขันชกมวย การแสดงดนตรี และการประกวดนกเขา โดยปีงบประมาณ 2562 จะมีการเพิ่ทกีฬาวอลเล่ย์บอลหญิง ฮอกกี้ เซปักตะกร้อ และรักบี้ เข้าไปด้วย