กรมธนารักษ์ ชี้แจงกรณีมีข้อวิจารณ์กรณีแจ้งความดำเนินคดีอาญากับชาวบ้านชุมชนริมคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อที่ไม่เข้าร่วมโครงการพัฒนาชุมชนริมคลอง

วันนี้ (5 ต.ค.60) กรมธนารักษ์ ชี้แจงกรณีมีข้อวิจารณ์เกี่ยวกับกรมธนารักษ์แจ้งความดำเนินคดีอาญากับชาวบ้านชุมชนริมคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อ ที่ไม่เข้าร่วมโครงการพัฒนาชุมชนริมคลองเพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหารุกล้ำคลอง หรือโครงการบ้านประชารัฐริมคลอง โดยกรมธนารักษ์ขอชี้แจงว่า

1) คลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อ เป็นคลองที่ขุดขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งที่ดินตามแนว ลำคลองดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุ โดยปัจจุบันกรุงเทพมหานครใช้ประโยชน์เป็นทางระบายน้ำหลักสำหรับป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แต่โดยสภาพได้มีราษฎรบุกรุกอยู่อาศัยและปลูกสร้างสิ่งก่อสร้างบริเวณคลองและชานคลองจำนวนมากทั้งหมด 50 ชุมชน 6,868 ครัวเรือน โดยมี 9 ชุมชน 1,002 ครัวเรือน ได้โยกย้ายไปจัดหาที่ดินแห่งใหม่ คงเหลือที่บุกรุกฯ 41 ชุมชน 5,866 ครัวเรือน ขณะนี้กรมธนารักษ์ได้จัดให้เช่าไปแล้ว 28 ชุมชน 3,554 ครัวเรือน และมีชุมชนที่ต้องจัดให้เช่าเพิ่มเติม 13 ชุมชน 2,312 ครัวเรือน โดยจะดำเนินการ ในปีงบประมาณ 2561

2) ตั้งแต่ปี 2548 รัฐบาลได้มีนโยบายต่อเนื่องเกี่ยวกับการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ และจัดระเบียบที่อยู่อาศัยเพื่อแก้ไขปัญหาชุมชนแออัดตามแนวคลองทั้งหมดรวมคลองลาดพร้าวและคลองบางซื่อดังกล่าว โดยรัฐบาลปัจจุบันได้กำหนดให้มีหลายหน่วยงานร่วมเป็นองค์กรขับเคลื่อนในเรื่องนี้ ได้แก่ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) กรมธนารักษ์ สำนักงานเขต คสช.พื้นที่ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัยของชุมชนริมคลองที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ ให้มีที่อยู่อาศัยที่มีความมั่นคงยั่งยืนและมีสิ่งแวดล้อมทางกายภาพและสังคมที่ดีมากยิ่งขึ้น

3) กรณีการดำเนินการกับราษฎรผู้บุกรุกฯ ส่วนน้อยที่ไม่ให้ความร่วมมือกับทางราชการ ได้มีการประชุมร่วมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2560 มีมติเพื่อให้การแก้ไขปัญหารุกล้ำคลองบรรลุผลโดยเร็ว เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของกรุงเทพมหานครสัมฤทธิ์ผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ขณะที่ข้อเท็จจริงได้มีกลุ่มราษฎรผู้บุกรุกบางรายนิ่งเฉยไม่ยินยอมปฏิบัติ ตลอดจนยุยงส่งเสริมให้มีการคัดค้านหรือยกเลิกการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ตลอดเวลาส่งผลกระทบต่อแนวทางแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ซึ่งยืดเยื้อมานานมาก ซึ่งทางหน่วยงานราชการได้พยายามเจรจาผ่อนปรนมาเป็นเวลาพอสมควร ก็จำเป็นต้องใช้มาตรการทางด้านกฎหมายเข้ามาดำเนินการกับกลุ่มราษฎรผู้บุกรุก บางรายที่ไม่ให้ความร่วมมือดังกล่าว โดยร้องทุกข์กล่าวโทษและดำเนินคดีตามกฎหมายกับแกนนำที่เป็นอุปสรรคไม่ให้ความร่วมมือกับทางราชการ

4) ดังนั้น ลักษณะที่มีข่าวเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหาชุมชนริมคลองลาดพร้าวของกรมธนารักษ์ จึงมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง พร้อมทั้งขอชี้แจงรายละเอียดของการพัฒนาชุมชนริมคลองลาดพร้าว ในเบื้องต้น โดยชุมชนส่วนใหญ่ที่ให้ความร่วมมือกับทางราชการ สามารถแสดงถึงคุณภาพชีวิตและลักษณะทางกายภาพของชุมชนที่ดียิ่งขึ้นอย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม และมีการเผยแพร่สู่สาธารณะไปเป็นระยะๆ แล้ว ทั้งนี้ กรมธนารักษ์จะได้มีการนำเสนอความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาฯ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในโอกาสต่อไป