นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตือนนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศว่า กำลังเสียเวลาไปกับการพยายามเจรจากับเกาหลีเหนือ ซึ่งนับเป็นการตอบโต้ที่นายทิลเลอร์สันแถลงข่าวว่า สหรัฐฯ ยังยืนยันจุดยืนที่ต้องการเจรจากับเกาหลีเหนือ ผ่านช่องทางสื่อสารทางตรง
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ทวีตข้อความเตือนนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ว่า นายทิลเลอร์สันกำลังเสียเวลาไปกับการพยายามเจรจากับนายคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยข้อความของนายทรัมป์ยังล้อเลียนนายคิมว่าเป็น 'Little Rocket Man' หรือ 'มนุษย์จรวดตัวน้อย' ด้วย
I told Rex Tillerson, our wonderful Secretary of State, that he is wasting his time trying to negotiate with Little Rocket Man...
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) October 1, 2017
...Save your energy Rex, we'll do what has to be done!
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) October 1, 2017
ต่อมานายทรัมป์ทวีตข้อความตั้งคำถามว่าทำไมเกาหลีเหนือถึงเพิ่งจะมาเร่งพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ในช่วงนี้ พร้อมระบุว่าอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างนายบิล คลินตัน นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช และนายบารัก โอบามา ต่างล้มเหลว แต่ตัวเขาจะไม่ยอมล้มเหลวอย่างเด็ดขาด
Being nice to Rocket Man hasn't worked in 25 years, why would it work now? Clinton failed, Bush failed, and Obama failed. I won't fail.
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) October 1, 2017
การทวีตข้อความถึงนายทิลเลอร์สันของนายทรัมป์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา นายทิลเลอร์สันได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่กรุงปักกิ่งของจีนระบุว่า สหรัฐฯ ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนผ่านช่องทางสื่อสารทางตรงไปยังเกาหลีเหนือว่า สหรัฐฯ ต้องการให้เกิดสันติภาพผ่านการเจรจา พร้อมย้ำว่าขณะนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การลดความตึงเครียดลง เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ร้อนระอุเกินไป
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวอาวุโสในรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ระบุว่า ขณะนี้สหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นแนวทางการทูต อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กลับทวีตข้อความ ภายหลังจากที่นายทรัมป์ได้ทวีตข้อความไม่นานว่า เกาหลีเหนือจะไม่มีวันบรรลุศักยภาพทางนิวเคลียร์ และขึ้นอยู่กับเกาหลีเหนือเองว่าต้องการเจรจาด้วยวิธีการทางการทูตหรือต้องการให้สหรัฐฯ ใช้กำลัง พร้อมยืนยันว่าขณะนี้ช่องทางการทูตยังคงเปิดกว้างสำหรับนายคิมจองอึน แต่ช่องทางนี้จะไม่เปิดตลอดไป
#DPRK will not obtain a nuclear capability. Whether through diplomacy or force is up to the regime @StateDept
— Heather Nauert (@statedeptspox) October 1, 2017
Diplomatic channels are open for #KimJongUn for now. They won't be open forever @StateDept @potus
— Heather Nauert (@statedeptspox) October 1, 2017
สถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีได้ทวีความรุนแรงขึ้น หลังเกาหลีเหนือทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ใต้ดินครั้งที่ 6 และยิงขีปนาวุธข้ามเกาะฮอกไกโดของญี่ปุ่นถึง 2 ครั้ง ขณะที่ผู้นำสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือได้ออกมาข่มขู่กันไปมา จนนานาชาติหวั่นเกรงว่า สถานการณ์อาจบานปลายเลวร้ายลงยิ่งกว่านี้
เรียบเรียงโดย: สลิสา ยุกตะนันทน์