ศาลจังหวัดพระโขนง พิพากษาสั่ง จำคุก 4เดือน นายปิยรัฐ จงเทพ นักกิจกรรม กรณีฉีกบัตรประชามติ แต่จำเลยรับสารภาพจึงลดโทษเหลือจำคุก 2 เดือน รอลงอาญา 1 ปี
ศาลจังหวัดพระโขนง พิพากษาสั่ง จำคุก 4 เดือน แต่จำเลยรับสารภาพและไม่ปรากฏว่ามีโทษมาก่อน จึงลดโทษจำคุก 2 เดือน รอลงอาญา 1 ปี กรณีนายปิยรัฐ จงเทพ นักกิจกรรม ทำการฉีกบัตรประชามติที่หน่วยออกเสียงเขตบางนา เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา มาตรา 358 ทำให้เสียทรัพย์
ส่วนความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 88 ระบุว่า ไม่เป็นการทำลายเอกสารราชการ เนื่องจากยังไม่ได้มีการลงเครื่องหมาย จึงไม่ถือเป็นเอกสารราชการ พร้อมทั้งยกฟ้องจำเลยทั้ง 3 ตาม พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 60 (9) เนื่องจากเป็นการแสดงออกโดยสันติ ไม่มีการขัดขืนและก่อกวนผู้อื่น การทำประชามติในครั้งนั้นยังคงดำเนินการต่อไปได้ตามปกติ จึงไม่ถือเป็นการก่อความวุ่นวาย
ส่วนกรณีนายทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ และนายจิรวัฒน์ เอกอัครนุวัฒน์ ที่ร่วมถ่ายภาพในวันเกิดเหตุ ไม่มีความผิด เพราะไม่มีกฎหมายระบุว่าการถ่ายภาพเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ นายปิยรัฐ ระบุว่า พอใจในผลการตัดสิน และมีการคาดหวังถึงคำตัดสินไว้ในแนวทางเดียวกัน มั่นใจในหลักฐานว่าจะสู้ในชั้นศาลได้ ระบุเจตนาในตอนนั้น เพื่อให้เป็นปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าอย่างน้อยมีหนึ่งคนที่ไม่ยอมรับกระบวนการออกเสียงประชามติ และเป็นการต่อต้านโดยสันติวิธี ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่ประชาชนควรจะตระหนักรู้ได้ว่านี่คือความไม่ชอบธรรมที่สามารถต่อต้านได้ ก่อนเผยว่า วันนี้เป็นข้อพิสูจน์ถึงการต่อสู้ทางกฎหมายภายใต้อำนาจของรัฐบาลเผด็จการ ว่าสามารถต่อสู้ได้ตามขั้นตอน หากมีพยานหลักฐานเพียงพอ พร้อมฝากถึงผู้ที่จะะตามรอยว่าขอให้ทำโดยบริสุทธิ์ใจ และประเมินตัวเองให้มากที่สุดว่าพร้อมรับสถานการณ์นั้นได้มากเพียงใด
ทั้งนี้ในห้องฟังคำพิพากษามีเพียงจำเลยและทนายความเท่านั้นที่อยู่ฟังคำพิพากษาได้ ผู้ร่วมมาให้กำลังใจและผู้สื่อข่าวไม่อนุญาตให้เข้ารับฟังการอ่านคำพิพากษา และศาลได้ทดแทนค่าเสียหายที่ถูกจำคุก 1 คืน จำนวน 500 บาท
รายงานโดย : สุติมา หวันแก้ว